PROUD บุกภูเก็ตเปิดโปรเจ็คต์ลักชัวรี 2.5 พันลบ.มั่นใจรายได้ปีนี้ All Time High ลุ้นจ่ายปันผลครั้งแรก

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บมจ.พราว เรียล เอสเตท [PROUD] กล่าวว่า บริษัทได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัว The Residences at InterContinental Phuket Resort โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี บนหาดกมลา มูลค่า 2.5 พันล้านบาท จำนวน 111 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 15 ล้านบาท จะเริ่มเปิดการขายรอบ VVIP ในวันที่ 18 ต.ค.68 คาดหวังยอดขายในช่วงแรก 20-30% โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนพ.ย.นี้ คาดว่าจะเริ่มโอนได้ภายในไตรมาส 3/80

ทำเลของโครงการ The Residences at InterContinental Phuket Resort บนหาดกมลาถือเป็นจุดหมายปลายทางของไลฟ์สไตล์ที่ครบครันและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต การพัฒนาของบริการระดับลักชัวรีของโรงแรมและการเกิดขึ้นของ The Residences at InterContinental Phuket Resort จะยิ่งสะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่กมลาสู่ Millionaire Mile ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของพื้นที่โดยรอบในกมลาที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมายจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยส่งเสริมความสะดวกและครบครัน แต่ยังคงสเน่ห์และความเอ็กคลูซีฟให้หาดกมลายังคงหรูหราและน่าอยู่ได้ตลอดไป

นอกจากนี้ ทุกองค์ประกอบของโครงการได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและการพักผ่อนขั้นสูงสุด พื้นที่ส่วนกลางมีบริการเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ Aqua Symphony, Hydro Massage และ Technogym Fitness รวมถึงการออกแบบที่สอดแทรกธรรมชาติให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้จากทุกพื้นที่ พร้อมเติมเต็มองค์ประกอบเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์และระบบบริหารจัดการขยะและน้ำ พร้อมเตรียมขอการรับรองมาตรฐานระดับโลก Fitwel Certification ซึ่งเป็นการรับรองอาคารที่ดีต่อสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ PROUD

นายพสุ กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลงานของบริษัทคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 4/68 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ เพราะจะมีการโอนโครงการเวหา หัวหิน และ NUE District R9 ที่มียอดขายแล้วกว่า 70% ทั้ง 2 โครงการ โดยในครึ่งปีหลังนี้จะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 4 พันล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมดที่มีกว่า 7.7 พันล้านบาท ทำให้รายได้ปีนี้มั่นใจตามเป้า 9.4 พันล้านบาท และทำผลงานเป็นสถิติสูงสุดใหม่ (All time high) โดยที่อัตรากำไรสุทธิในปีนี้ยังสามารถรักษาระดับได้ในตัวเลข 2 หลัก

ขณะที่การเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท โดยเฉพาะการโอนโครงการที่เข้ามามากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินเข้ามามากขึ้น และสามารถนำมาใช้ลงทุนต่อยอดธุรกิจในการซื้อที่ดินใหม่มากขึ้น โดยตั้งงบลงทุนรวมไว้ 3 พันล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ โดยใช้ไปแล้วในปีนี้ 1.3 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยซื้อที่ดินใหม่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มเติม และการที่ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้นทำ All time high ในปี 68 คาดว่าจะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากงบการเงินปี 68 เป็นครั้งแรกในปี 69 ให้กับผู้ถือหุ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)