ราคาทองคำ (96.5%) ขายปลีกในประเทศเช้านี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นบาททองคำละ 500 บาท ตามสถานการณ์ราคาในตลาดโลก ดันราคาทองรูปพรรณ ขายออก
โดยสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคา ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.04 น.
– ทองคำแท่ง 96.5% รับซื้อ บาททองคำละ 61,350 บาท ขายออก บาททองคำละ 61,450 บาท
– ทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้อ บาททองคำละ 60,124.56 บาท ขายออก บาททองคำละ 62,250 บาท
บทวิเคราะห์จาก บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ทองโลกได้มีการปรับตัวขึ้น จากการที่ตลาดกำลังจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ – พรรคเดโมแครต เพื่อแก้ไขปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ที่ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 7 โดยเน้นประเด็นการเจรจาไปที่ระบบประกันสุขภาพ หรือโอบามาแคร์ (Obama care) ตามความต้องการของพรรคเดโมแครต ที่ต้องการสานต่อนโยบายนี้รวมเข้ากับงบประมาณชั่วคราว
ในขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวลงมา และทรงตัวในระดับ 4.12% หลังจากปรับตัวขึ้น 2 วันติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 สู่ระดับ 98.57 หน่วย จาก 97.95 หน่วย สืบเนื่องมาจากเงินเยนอ่อนค่า หลังจากตลาดกังวลแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการคลังของญี่ปุ่น ที่ส่งผลให้ตลาดขาดความเชื่อมั่นในเงินเยน จากนโยบายการเมืองที่อาจเข้าแทรกแซงนโยบายการเงิน
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยในวันอังคารว่า ยอดถือครองทองคำของจีน ณ สิ้นเดือนก.ย. 2568 เพิ่มขึ้นราว 1.24 ตัน เป็น 2,303.61 ตัน จากเดิมในเดือน ส.ค.ที่ 2,302.37 ตัน ซึ่งเป็นการเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ทางด้านกองทุน SPDR ขายทองคำ 0.02 ตัน รวมสุทธิ 1,013.15 ตัน
“ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น แต่ในระยะสั้น มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,000 ดอลลาร์ และมีการปรับตัวลงในภายหลัง จึงประเมินว่า ทองโลกอาจย่อตัวลงระยะสั้น ทดสอบแนวรับที่ 3,975 ดอลลาร์ แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,960 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่การปรับฐานลงระยะสั้น” บทวิเคราะห์ระบุ
ส่วนราคาทองในประเทศอยู่ในระยะขาขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาททยอยอ่อนค่า จึงแนะนำขายตามแนวต้านที่ระดับ 61,450 และ 61,750 บาท และรอเข้าซื้อสะสมตามแนวรับที่ 61,200 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 61,050 บาท แนะนำขายตัดขาดทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 68)
