
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการดำเนินโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ตามนโยบายไม่เทรวมว่า จากการรณรงค์ทำให้ตอนนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 840,000 หลังคาเรือน แสดงว่าประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีปัญหาอุปสรรคใด ๆ ในการดำเนินงาน ขอให้สะท้อนปัญหากลับมา เพื่อทุกคนจะได้ร่วมกันแก้ไข และให้เป็นแนวทางในการดำเนินงานแก่ผู้อื่นได้
นอกจากนี้ ในการประชุมแนวทางการจัดเก็บขยะเศษอาหาร ได้หารือถึงการดำเนินงานของสำนักงานเขต 50 เขต ประกอบด้วย

1. แนวทางการรายงานข้อมูลการติดสติ๊กเกอร์ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ “สถานที่นี้ขึ้นทะเบียนคัดแยกขยะกับกรุงเทพมหานคร” ผ่านระบบ BKK WASTE PAY ให้แก่ครัวเรือนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียมกับกรุงเทพมหานคร
2. การจัดระบบและเส้นทางการเก็บเศษอาหาร ตาม location ที่ประชาชนปักหมุดไว้ตอนลงทะเบียน และการรายงานผลการดำเนินงาน โดยกำหนดแนวทางในการติดตั้งถังขยะเศษอาหาร เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
3. ระบบการจัดการมูลฝอยเศษอาหารของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การจัดการมูลฝอยเศษอาหารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4. การใช้ระบบสารสนเทศบริหารจัดการการจัดเก็บค่าธรรมเนียมมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรับทราบถึงรายละเอียดในการใช้แอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY ในการให้บริการประชาชน
ด้านนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาฯ เชื่อมั่นว่า การดำเนินโครงการฯ นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับพฤติกรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน รวมถึงจะสามารถลดปริมาณขยะในกรุงเทพมหานคร เพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 68)