โร โมชัน (Rho Motion) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาด เปิดเผยในวันนี้ (15 ต.ค.) ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด พุ่งขึ้น 26% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.1 ล้านคัน โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ในประเทศจีน และจากการที่ผู้บริโภคเร่งใช้สิทธิประโยชน์จากเครดิตภาษีรถ EV ในสหรัฐฯ
เมื่อแยกเป็นรายประเทศ/ภูมิภาคพบว่า ยอดขายในจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.3 ล้านคัน ยอดขายในยุโรปพุ่งขึ้น 36% แตะที่ 427,541 คัน ขณะที่ยอดขายในอเมริกาเหนือทะยานขึ้น 66% แตะที่ 215,000 คัน ส่วนยอดขายในภูมิภาคที่เหลือทั่วโลกพุ่งขึ้น 48% แตะที่ 153,594 คัน
ชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน กล่าวว่า ยอดขายรถ EV ในจีนคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของยอดขายทั่วโลก โดยในเดือนก.ย.นั้น ปกติจะเป็นเดือนที่คึกคักที่สุดสำหรับการซื้อรถยนต์ในจีน ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากผู้ซื้อต้องการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเงินอุดหนุนการนำรถเก่ามาแลกเปลี่ยนเป็นรถใหม่ ก่อนที่บางภูมิภาคในจีนจะเริ่มยกเลิกนโยบายดังกล่าว
ส่วนยอดขายในอเมริกาเหนือทำสถิติสูงสุดเช่นกัน เนื่องจากผู้ซื้อในสหรัฐฯ เร่งซื้อรถ EV เพื่อรับสิทธิเครดิตภาษีรถ EV จำนวน 7,500 ดอลลาร์ ก่อนที่นโยบายดังกล่าวจะหมดอายุลง อย่างไรก็ดี คาดว่าความต้องการรถ EV ในสหรัฐฯ จะลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาส 4
นอกจากนี้ ยอดขายในยุโรปก็ทำสถิติสูงสุดระดับใหม่เช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเยอรมนีออกนโยบายเพิ่มแรงจูงใจและอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอังกฤษ ขณะเดียวกันคาดว่าการที่บริษัทเทสลา (Tesla) เปิดตัวรถ Model Y เวอร์ชันราคาถูกกว่า ในยุโรป จะยิ่งทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 68)
