ดาวโจนส์ปิดบวก 238.37 จุด ทรัมป์ส่งสัญญาณผ่อนคลายภาษีจีน-หุ้นแบงก์ฟื้น

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (17 ต.ค.) หลังการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 จากธนาคารระดับภูมิภาคช่วยลดความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านสินเชื่อ ขณะที่นักลงทุนประเมินถ้อยแถลงล่าสุดเกี่ยวกับจีนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,190.61 จุด เพิ่มขึ้น 238.37 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,664.01 จุด เพิ่มขึ้น 34.94 จุด หรือ +0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,679.98 จุด เพิ่มขึ้น 117.44 จุด หรือ +0.52%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.6%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.7% และดัชนี Nasdaq บวก 2.1%

ในบรรดาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น มี 9 กลุ่มที่ปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 1.23%

ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีนำเข้าระดับ 100% ที่เขาเสนอเก็บจากสินค้าจีนนั้นจะไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะยาว แต่โทษจีนว่าเป็นต้นเหตุของทางตันรอบใหม่ในการเจรจาการค้า ซึ่งเริ่มต้นจากการที่ทางการจีนเข้มงวดในการควบคุมการส่งออกแร่หายาก โดยเขาเปิดเผยมาตรการภาษีใหม่นี้เมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมทั้งประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญทั้งหมด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดยังไม่รู้จะตีความถ้อยแถลงของทรัมป์อย่างไร เพราะมีความไม่แน่นอนและความย้อนแย้งมากเกี่ยวกับจีน ภาษีการค้า และประเด็นอื่น ๆ อีกมากมาย

หุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคฟื้นตัว หลังจากร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดย Zions Bancorporation เปิดเผยว่าขาดทุนจากสินเชื่อเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม 2 รายการ ส่วน Western Alliance เปิดเผยว่า ได้ยื่นฟ้องร้อง Cantor Group V, LLC ฐานฉ้อโกง

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านสินเชื่อดูจะเกินจริง เพราะเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ ๆ แล้ว คุณภาพสินเชื่อยังแข็งแกร่งโดยรวม และมีเพียงไม่กี่จุดที่อ่อนแอ

หุ้น Truist Financial พุ่งขึ้น 3.7% หลังรายงานกำไรไตรมาส 3 สูงขึ้น, หุ้น Fifth Third Bancorp บวก 1.3%, หุ้น Zions พุ่งขึ้น 5.8% หลังร่วงแรงในวันพฤหัสบดี ขณะที่หุ้น Western Alliance พุ่งขึ้น 3.1%

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค S&P Composite 1500 Regional Banks เพิ่มขึ้น 1.8% หลังจากร่วงลงเกือบ 6% เมื่อวันพฤหัสบดี ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินของดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8%

การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจาก JPMorgan และธนาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ ช่วยให้ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 เริ่มต้นอย่างสดใส

นักวิเคราะห์คาดว่า กำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะเพิ่มขึ้น 9.3% ในไตรมาส 3 สูงกว่าประมาณการเมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ 8.8% ตามข้อมูลของ LSEG I/B/E/S

หลังจากดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเกือบ 14% นับตั้งแต่ต้นปีนี้นั้น ปัจจุบันดัชนีซื้อขายที่ระดับราคาต่อกำไร (P/E) ราว 23 เท่า ซึ่งเป็นระดับแพงที่สุดในรอบ 5 ปี

ดัชนีความผันผวน CBOE (VIX) ซึ่งสะท้อนระดับความกังวลของนักลงทุน ลดลงมาที่ 21.5 จุด หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือนที่ 28.99 จุดในช่วงต้นการซื้อขาย

หุ้นบริษัทรายใหญ่สุดของตลาดเคลื่อนไหวผสมผสาน โดยหุ้น Tesla พุ่งขึ้น 2.5%, หุ้น Apple บวกเกือบ 2% แต่หุ้น Amazon ลดลง 0.7%

หุ้น Eli Lilly ร่วงลง 2% หลังทรัมป์ระบุว่าจะดำเนินการลดราคายาลดน้ำหนัก และหุ้น State Street ลดลง 1.4% หลังเปิดเผยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่คาดไว้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 68)