สำนักงานสถิติแห่งชาติตุรกี (TurkStat) รายงานในวันนี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อของตุรกีในเดือนต.ค. ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 32.87% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจาก 33.29% ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 33.2% นับเป็นปัจจัยบวกต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางที่มุ่งลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป
การเปิดเผยข้อมูลนี้มีขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ฟาติห์ คาราฮาน ผู้ว่าการธนาคารกลาง อาจปรับเพิ่มกรอบคาดการณ์เงินเฟ้อในการแถลงข่าววันศุกร์นี้ (7 พ.ย.) ซึ่งมุมมองดังกล่าวสอดรับกับความเห็นของเมห์เหม็ด ชิมเช็ค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อปัจจุบันนั้นดูเป็นเรื่อง “ยาก”
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางได้ประเมินกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ณ สิ้นปีไว้ที่ 25%-29% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดโดยรวมที่มองว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่สูงกว่า 30%
จากภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและความเสี่ยงทางการเมือง ได้ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนต.ค. แม้ทิศทางนโยบายยังคงเป็นการผ่อนคลาย แต่ธนาคารกลางชี้ว่ากระบวนการชะลอตัวของเงินเฟ้อ (disinflation) ที่เริ่มช้าลง ทำให้ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังขึ้น โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1.00% เทียบกับที่ปรับลดถึง 2.50% ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางชี้แจงว่า แรงกดดันด้านราคาส่วนใหญ่มีที่มาจากหมวดอาหารและค่าบริการอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าและค่าเล่าเรียน ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตที่นโยบายการเงินจะส่งผลกระทบได้โดยตรงในระยะสั้น เนื่องจากราคาเหล่านี้มักถูกปรับตามดัชนีในอดีต (backward-indexed)
TurkStat ระบุเพิ่มเติมว่า อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบรายเดือนชะลอตัวลงสู่ 2.55% ในเดือนต.ค. จาก 3.23% ในเดือนก.ย.
ถึงกระนั้น นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักยังคงเรียกร้องให้ธนาคารกลางดำเนินนโยบายด้วยความรอบคอบยิ่งขึ้นในการลดดอกเบี้ย โดยชี้ถึงความเสี่ยงที่เงินเฟ้ออาจดีดตัวกลับขึ้นไปได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 68)
