BANPU ร่วมทุน AMATAV ตั้งบ.ย่อยทำ Rooftop Solar Power Systems ในเวียดนาม

บมจ.บ้านปู [BANPU] เปิดเผยว่า บริษัท Esco NEXT Limited Liability (“Esco NEXT”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BANPU ได้ทำสัญญาร่วมทุนกับ บมจ.อมตะ วีเอ็น [AMATAV] เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศเวียดนาม วัตถุประสงค์เพื่อการลงทุน พัฒนา และดำเนินการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Rooftop Solar Power Systems) สำหรับจำหน่ายกระแสไฟฟ้าแก่ลูกค้าภาคพาณิชย์ และอุตสาหกรรมภายในตลาดที่กำหนด และเพื่อประกอบธุรกิจอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับพลังงานตามที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นครั้งคราว

โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น Esco NEXT ถือร้อยละ 65 AMATAV ถือร้อยละ 35 ทุนจดทะเบียน 1,000,000,000 ดองเวียดนาม (ประมาณ 1,230,000 บาท)

บ้านปู เน็กซ์ ผนึก อมตะ วีเอ็น และโซลาร์บีเค ร่วมลงทุนโปรเจกต์โซลาร์รูฟท็อป 227 เมกะวัตต์ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ประเทศเวียดนาม

จากความสำเร็จในความร่วมมือระหว่างบ้านปู เน็กซ์และโซลาร์บีเคที่จะให้บริการระบบโซลาร์สำหรับกลุ่มธุรกิจเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม ทั้งสองบริษัทได้ขยายพอร์ตโฟลิโอด้วยการต่อยอดความร่วมมือกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ดำเนินโครงการติดตั้งระบบโซลาร์ที่ อมตะซิตี้ ฮาลอง (686 เฮกตาร์) และอมตะซิตี้ ลองถั่น (410 เฮกตาร์) เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในเวียดนาม

พร้อมทั้งสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศและแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับที่ 8 ที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน และความมั่งคงด้านพลังงาน โดยระบบโซลาร์จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับนิคมอุตสาหกรรมอมตะ และสร้างประโยชน์ให้ผู้เช่าในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งการดำเนินธุรกิจและความยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตที่มีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอน และการลดต้นทุนระยะยาวโดยมองหาพลังงานทางเลือกที่ทันสมัย คุ้มค่า และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ้านปู เน็กซ์ กล่าวว่า ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ AMATAV เป็นก้าวสำคัญในการขยายพอร์ตฟอลิโอของเราในเวียดนาม และถือเป็นการบรรลุเป้าหมายระยะแรกของการร่วมทุนกับโซลาร์บีเค เราตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการ Net Zero Solutions ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยนำความเชี่ยวชาญของเราผสานกับจุดแข็งของพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางพลังงานและความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมเวียดนามด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืน โครงการโซลาร์รูฟท็อปนี้จะช่วยเสริมแกร่งให้ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของเรา และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดได้เร็วขึ้นในตลาดที่เติบโตแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AMATAV กล่าวว่า ในฐานะผู้บุกเบิกการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมผ่านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) ที่มีประสบการณ์กว่าสามทศวรรษในเวียดนาม ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่วิสัยทัศน์ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2583 การบูรณาการโซลาร์รูฟท็อปเข้ากับนิคมอุตสาหกรรมของเราที่กำลังดำเนินการและอยู่ระหว่างพัฒนา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ผลิตระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการประหยัดต้นทุนพลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยในการเลือกทำเลที่ตั้งโรงงาน อีกทั้งยังช่วยพลิกโฉมนิคมอุตสาหกรรมของเราให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสีเขียวที่สร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

นายเหวียน เยือง ต๋วน กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มโซลาร์บีเค กล่าวว่า การผนึกกำลังระหว่างสามบริษัทไม่เพียงต่อยอดความร่วมมือของเรากับบ้านปู เน็กซ์ แต่ยังเป็นการนำประสบการณ์เกือบ 20 ปีของเราในวงการโซลาร์ของเวียดนามมาสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมของอมตะ เมื่อนำระบบโซลาร์แบบครบวงจรผนวกกับโครงสร้างพื้นฐานของนิคมฯ จะสามารถสร้างโมเดลพลังงานยั่งยืนที่ตอบสนองความต้องการทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจของเรา และเป็นหมุดหมายสำคัญในภารกิจขับเคลื่อนการใช้พลังงานหมุนเวียนในอุตสาหกรรมและเปลี่ยนผ่านเวียดนามสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ในอนาคต ทั้งสามบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนของเวียดนามต่อไป โดยมีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีและบริการด้านพลังงานสะอาดอื่นๆ มาใช้ อาทิ ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือสมาร์ทกริด และระบบจัดการพลังงาน ทั้งยังมุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอนาคตที่ยั่งยืนของเวียดนาม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 68)