
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (3 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าโรงงานของ Nexperia ผู้ผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ในจีนจะกลับมาส่งออกสินค้าได้อีกครั้ง
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 572.28 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด หรือ +0.07%
 - ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,109.79 จุด ลดลง 11.28 จุด หรือ -0.14%,
 - ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,132.41 จุด เพิ่มขึ้น 174.11 จุด หรือ +0.73% และ
 - ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,701.37 จุด ลดลง 15.88 จุด หรือ -0.16%
 
หุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Renault, Mercedes-Benz และ Volkswagen ปรับตัวขึ้นระหว่าง 1.9% ถึง 2.3% หลังมีรายงานว่า ทำเนียบขาวเตรียมประกาศให้ Nexperia กลับมาส่งออกสินค้าจากจีนได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองในเดือนต.ค.
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เพิ่งเข้าควบคุมกิจการของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Wingtech สัญชาติจีน เหตุการณ์นี้ทำให้จีนสั่งห้ามการส่งออกสินค้าของ Nexperia ออกจากจีน ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปปรับขึ้น 0.6% ส่วนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการเพิ่มขึ้น 1.7% โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้น Ryanair ที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ลดลง 1.5% โดยหุ้น Anglo American และ Rio Tinto ต่างลดลงกว่า 2%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Siemens Energy แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปิดบวก 2.5% หลัง Morgan Stanley ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากแนวโน้มระยะกลางที่ดีขึ้น ขณะที่หุ้น GTT บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบกักเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของฝรั่งเศส ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน โดยพุ่งขึ้น 8.7% หลังปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรหลักประจำปี
หุ้น Ryanair ประเมินว่าราคาตั๋วโดยสารจะฟื้นตัวได้มากกว่าการลดลง 7% เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้หุ้นสายการบินต้นทุนต่ำรายนี้พุ่งขึ้น 3.9%
หุ้น Campari ร่วงลง 2.4% หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภาษีของอิตาลียึดหุ้นมูลค่า 1.29 พันล้านยูโร (ราว 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากบริษัทโฮลดิงในลักเซมเบิร์กที่ถือหุ้นในกลุ่มบริษัทเครื่องดื่มของอิตาลีรายนี้ โดยกล่าวหาว่ามีการหลบเลี่ยงภาษี
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า บริษัทในยุโรปที่พึ่งพาตลาดส่งออกมีผลประกอบการดีกว่าที่คาดในฤดูกาลนี้ ซึ่งช่วยกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะตลาดเยอรมนี และเป็นปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนของยุโรป
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น กิจกรรมการผลิตของยูโรโซนทรงตัวในเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)
								




