แบงก์ออฟอเมริกา (Bank of America – BofA) เปิดเผยว่า การร่วงลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา มีสาเหตุหลักมาจากแรงขายของกองทุนที่ลงทุนตามแนวโน้มตลาด (trend-following funds) โดยเฉพาะกลุ่มที่ปรึกษาการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Trading Advisors: CTAs) ซึ่งยังคงทยอยลดการถือครองทองคำ หลังราคาทองปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง
รายงานของนักวิเคราะห์ BofA ระบุว่า แบบจำลองการลงทุนที่มีความระมัดระวังด้านความเสี่ยงได้ปิดสถานะซื้อทองคำไปแล้ว แต่กองทุน CTAs บางกลุ่มที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากกว่ายังคงถือสถานะซื้อ เนื่องจากแนวโน้มราคายังส่งสัญญาณเชิงบวก
แบบจำลอง CTA ของ BofA แสดงให้เห็นว่า ณ สิ้นเดือนต.ค. 2568 ทองคำยังอยู่ในสถานะซื้อเต็มรูปแบบทั้งระยะสั้น กลาง และยาว โดยมีค่าความแข็งแกร่งของแนวโน้มอยู่ที่ระดับ 100% อย่างไรก็ตาม แบบจำลองบางส่วนได้แตะระดับ “หยุดขาดทุน” แล้ว ซึ่งในอดีตมักสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของความผันผวนจากแรงขายในระบบอัตโนมัติ
ขณะเดียวกัน BofA ระบุว่า กองทุนที่ลงทุนตามแนวโน้มเริ่มหันไปเพิ่มการถือครองสัญญาซื้ออะลูมิเนียม หลังราคาฟิวเจอร์สของโลหะชนิดนี้ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ห้า สะท้อนการโยกย้ายเงินลงทุนบางส่วนออกจากทองคำไปยังโลหะอื่นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
รายงานบ่งชี้เพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้อะลูมิเนียมกลายเป็นสินค้าที่มีกองทุนถือสถานะซื้อมากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรอบการลงทุนและงบความเสี่ยงของแต่ละกองทุน ส่วนในตลาดสินค้าเกษตร แบบจำลองของธนาคารคาดว่า กองทุนเหล่านี้อาจเข้าซื้อสัญญาฟิวเจอร์สถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองในสัปดาห์หน้า
สำหรับตลาดหุ้นโลก นักวิเคราะห์ของ BofA ระบุว่า กองทุนที่ลงทุนตามแนวโน้มยังคงถือสถานะซื้อขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น หลังดัชนีหลักทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยเตือนว่าหากตลาดเกิดการปรับฐานแรง อาจกระตุ้นให้ CTAs เทขายหุ้นมูลค่าสูงสุดถึง 1.48 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสัปดาห์หน้าในกรณีที่ตลาดปรับตัวลงอย่างรุนแรง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)
