ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบตามวอลล์สตรีท กังวลภาวะฟองสบู่-ตลาดหุ้นเสี่ยงปรับฐาน

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (5 พ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงในการซื้อขายวันอังคาร (4 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 51,291.39 จุด ลดลง 205.81 จุด หรือ -0.40%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,701.63 จุด ลดลง 250.77 จุด หรือ -0.97% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,922.58 จุด ลดลง 37.61 จุด หรือ -0.95%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 5.97% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.77%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดร่วงลง หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เตือนว่าตลาดหุ้นอาจเข้าสู่ภาวะปรับฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป และอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น

เดวิด โซโลมอน ซีอีโอของธนาคาร Goldman Sachs กล่าวว่า “มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ตลาดหุ้นจะปรับฐานลงราว 10-20% ภายในเวลา 12-24 เดือนข้างหน้า” ขณะที่ เท็ด พิค ซีอีโอของธนาคาร Morgan Stanley กล่าวว่า “เราควรเตรียมตัวรับมือการปรับฐานราว 10-15% ซึ่งไม่ได้เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจระดับมหภาค”

ทั้งนี้ คำเตือนของซีอีโอธนาคารรายใหญ่ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาด หลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากกระแสความเฟื่องฟูของปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นอกจากนี้ คำกล่าวของซีอีโอ Goldman Sachs และ Morgan Stanley เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ เจมี ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan Chase เคยเตือนในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญกับการปรับฐานลงอย่างมีนัยสำคัญภายในเวลา 6 เดือนถึง 2 ปีข้างหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 68)