บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป (Toyota Motor Corp.) ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับปีงบการเงิน 2568 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2569 สู่ระดับ 2.93 ล้านล้านเยน (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยบริษัทคาดว่ายอดขายรถยนต์ที่สูงขึ้นและความพยายามในการลดต้นทุนนั้น จะช่วยชดเชยผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนั้น สูงกว่าที่โตโยต้าคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนส.ค.ว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 2.66 ล้านล้านเยน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานในปีงบการเงิน 2568 ขึ้นสู่ระดับ 3.4 ล้านล้านเยน จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.2 ล้านล้านเยน
โตโยต้าระบุว่า ขณะนี้บริษัทคาดการณ์ว่าผลกระทบโดยรวมจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ประมาณ 1.45 ล้านล้านเยนสำหรับปีงบการเงิน 2568 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 5 หมื่นล้านเยน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม บริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายรถยนต์โดยรวมของกลุ่มโตโยต้าสำหรับปีงบการเงิน 2568 ขึ้น 100,000 คัน เป็น 11.3 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงยอดขายของบริษัทในเครืออย่าง ฮิโน่ มอเตอร์ (Hino Motors) ผู้ผลิตรถบรรทุก และไดฮัทสุ มอเตอร์ (Daihatsu Motor) ผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก โดยโตโยต้ามีความเชื่อมั่นว่าความต้องการรถยนต์ของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้กำหนดภาษี 27.5% สำหรับรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับอัตราเดิมที่ 2.5% โดยมีเป้าหมายที่จะลดการขาดดุลการค้าของประเทศ อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นได้มีการเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งทำให้อัตราภาษีรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นถูกปรับลดลงเหลือ 15% ในเดือนก.ย.
สำหรับผลประกอบการในช่วงเดือนเม.ย. – ก.ย.ปีนี้ โตโยต้าเปิดเผยว่ากำไรสุทธิของบริษัทลดลง 7% มาอยู่ที่ระดับ 1.77 ล้านล้านเยน และกำไรจากการดำเนินงานลดลง 18.6% แตะระดับ 2.01 ล้านล้านเยน จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 68)
