ผู้นำโลกในที่ประชุม COP30 หนุนขยายใช้เชื้อเพลิงยั่งยืน 4 เท่าภายในปี 2578

บรรดาผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติซึ่งปิดฉากในวันศุกร์ (7 พ.ย.) ให้คำมั่นที่จะขยายการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืน (sustainable fuels) อย่างน้อย 4 เท่าภายในปี 2578 โดยมีญี่ปุ่นและอิตาลีเข้าร่วมกับประเทศเจ้าภาพบราซิลในการเสนอแนวคิดนี้

ทั้งนี้ มีประเทศประมาณ 20 ประเทศ รวมถึงอินเดียหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงสุด สนับสนุนคำมั่นนี้ โดยอิงจากระดับการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืนในปี 2567

เป้าหมายคือการเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืน เช่น ก๊าซชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพ และไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ โดยเชื่อว่าการนำเชื้อเพลิงยั่งยืนมาใช้แทนเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างแพร่หลายจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้ คำประกาศสนับสนุนการขยายการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืนถูกเปิดเผยในการประชุมผู้นำภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 30 หรือ COP30

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ไม่ได้เดินทางไปบราซิลเพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยยังคงอยู่ที่ญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาพิเศษของรัฐสภา

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นิยามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าเป็น “เรื่องหลอกลวง” ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวเช่นกัน

คำประกาศระบุถึงความจำเป็นในการดำเนินการทางการเมืองระดับสูงและความร่วมมือร่วมกันเพื่อเร่งการขยายการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืนในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การบิน การเดินเรือ การขนส่งทางบก และอุตสาหกรรม

บรรดาผู้นำให้คำมั่นที่จะนำแนวทางเชื้อเพลิงยั่งยืนไปใช้ในนโยบายระดับชาติ และสะท้อนแนวทางดังกล่าวในกรอบการมีส่วนร่วมที่กำหนดไว้ของแต่ละประเทศ (Nationally Determined Contributions) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดโดยข้อตกลงปารีสปี 2558

คำประกาศยังเรียกร้องความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อส่งเสริมนวัตกรรม ลดต้นทุนเทคโนโลยีและห่วงโซ่คุณค่าของเชื้อเพลิงยั่งยืนที่เกิดใหม่ และสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของเชื้อเพลิงเหล่านี้

ญี่ปุ่นและบราซิลซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพได้นำเสนอเป้าหมายการเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงยั่งยืนอย่างน้อย 4 เท่าในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วมในการประชุมรัฐมนตรีว่าด้วยเชื้อเพลิงยั่งยืนที่โอซาก้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 68)