พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำตัวนาย She Zhijiang เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปดำเนินคดีบ่อนกาสิโนและคดีที่เกี่ยวข้องที่ประเทศจีน หลังจากทางการจีนได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 ในข้อหาจัดตั้งและบริหารเว็บไซต์การพนันออนไลน์ข้ามชาติ, ฟอกเงินจากกิจกรรมผิดกฎหมาย และร่วมกันจัดตั้งขบวนการอาชญากรรม ตั้งบริษัทบังหน้าในหลายประเทศ โดยทางการจีนพบว่าผู้ต้องหารายนี้ใช้ประเทศเมียนมาเป็นฐานตั้งบริษัทบังหน้าทำธุรกิจพนันออนไลน์ข้ามชาติ มีเงินหมุนเวียนกว่า 280 ล้านหยวน และฟอกเงินออกต่างประเทศกว่า 150 ล้านหยวน
โดยกำหนดการส่งตัวนาย She Zhijiang นั้นจะขึ้นเครื่องออกจากประเทศไทยประมาณ 16.20 น. และเมื่อไปถึงประเทศจีนก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประเทศจีน
สำหรับการดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนครั้งนี้เป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนปี 2536
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างไทยกับจีน โดยทางการจีนได้ขอตัวผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นความสำคัญสูงสุดของประเทศจีน จึงได้ขอความร่วมมือเรามา ซึ่งทางการไทยก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจับกุม ควบคุม ซึ่งมาถึงวันนี้เราสามารถดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนได้ และนอกจากนี้ทางการจีนยังให้ความเชื่อมั่นว่าจะยกระดับในการช่วยกันแก้ไขปัญหาสแกมเซ็นเตอร์ที่จะมีความร่วมมือกับไทย ปราบปรามให้จริงจังและมากขึ้น
สำหรับผู้ต้องหารายนี้ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องสแกมเมอร์เลย แต่จากข้อมูลพบว่านาย She Zhijiang เป็นผู้สร้างชเวโก๊กโก่ สร้างคาสิโน ทั้งแบบออนกราวด์และออนไลน์ และในพื้นที่ที่สร้างก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ของสแกมเมอร์จำนวนมาก และนอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้มีอิทธิพลในชเวโก๊กโก่ และยังมีความสนิทสนมกับผู้นำท้องที่ที่อยู่บริเวณนั้นด้วย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเป็นคนที่มีศักยภาพพอสมควรก็ได้จ้างทนายร้องต่อศาลเพื่อต่อสู้คดีและไม่อยากกลับไปที่ประเทศจีน ซึ่งกระบวนการยุติธรรมของเราก็ได้พิจารณาตามกฏหมายแล้ว สุดท้ายก็จบส่งตัวผู้ต้องหารายนี้กลับไปยังประเทศจีนเพื่อไปดำเนินคดีทางกฎหมาย
นอกจากนี้จากการสืบสวนหลายคนที่เป็นคนไม่ดีจะไปขอสัญชาติ 2 สัญชาติที่ 3 จะมีทั้งประเทศกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ซึ่งไปจ่ายเงินแล้วก็ได้สัญชาติมา เชื่อว่าเป็นความคล่องตัวเวลาที่จะบินไปไหนมาไหนก็สามารถใช้สัญชาติอีกสัญชาติหนึ่งได้ และเมื่อจะถูกส่งตัวกลับเขาก็จะพยายามต่อสู้ว่าอยากกลับไปที่กัมพูชามากกว่ากลับไปที่จีน
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) ตนจะเดินทางไปที่ประเทศจีนเพื่อประชุมหารือว่าจะมีการร่วมกันปราบปรามสแกมเมอร์ได้อย่างไร ซึ่งจากการสืบสวนยังมีอีกหลายคนที่เป็นคนจีนที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่กัมพูชา ซึ่งทางการของประเทศต่าง ๆ มีอำนาจที่จะเข้าไปด้านใน แต่ก็พยายามใช้การเจรจากดดัน อย่างไรก็ตามจะต้องหาวิธีในการเข้าไปจัดการเรื่องนี้ในประเทศต่าง ๆ ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 68)
