หน่วยงานจัดเก็บภาษีของจีนได้ออกคำสั่งให้บรรดายักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ รวมถึงบริษัทอะเมซอนดอทคอม (Amazon.com) ส่งข้อมูลยอดขายให้ทางการจีนเป็นครั้งแรก เพื่อปราบปรามการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ค้าชาวจีนที่ทำธุรกิจข้ามพรมแดนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
รายงานจากผู้ค้าออนไลน์ในหลายภูมิภาคของจีนระบุว่า ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สำนักงานภาษีทั่วประเทศได้สั่งให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ส่งข้อมูลรายได้ไตรมาส 3 ของผู้ค้าชาวจีนบางราย เพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้องของการรายงานยอดขาย ซึ่งในหลายกรณีพบว่าต่ำกว่าความเป็นจริง
ข้อมูลที่ได้รับทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของจีนสามารถประเมินยอดขายของผู้ค้าสินค้าออนไลน์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยพบว่ายอดขายจริงมักสูงกว่าตัวเลขที่ผู้ค้ารายงานต่อสรรพากร หากต้องแก้ไขแบบภาษีให้สอดคล้องกับข้อมูลดังกล่าว ผู้ค้าอาจต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สูงสุดถึง 13% รวมถึงภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรลดลงอย่างมาก
อะเมซอนได้เริ่มส่งข้อมูลให้ทางการจีนตั้งแต่กลางเดือนต.ค. ขณะที่แพลตฟอร์มคู่แข่งจากจีนอย่าง อาลีเอกซ์เพรส (AliExpress) รวมถึงเทมู (Temu) และชีอิน กรุ๊ป (Shein Group) ได้ส่งข้อมูลให้ทางการก่อนหน้านั้นไม่กี่สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนไม่ได้กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดใด ๆ
ทั้งนี้ ตามกฎหมายภาษีของจีน บริษัทที่มีรายได้ต่อปีเกิน 5 ล้านหยวน หรือราว 703,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะต้องเสีย VAT สูงสุด 13% เว้นแต่จะสามารถยื่นหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรหรือเอกสารยืนยันการส่งออกได้ ซึ่งผู้ค้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามโครงสร้างธุรกิจปัจจุบัน
รายงานจากมาร์เก็ตเพลส พัลส์ (Marketplace Pulse) เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า ผู้ค้าชาวจีนมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ขายทั้งหมดบนแพลตฟอร์มแอมะซอนทั่วโลก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สัดส่วนดังกล่าวเกิน 50% ในทุกตลาดต่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)
