
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (20 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทผลิตชิป หลังจากบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2569 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค. 2568 พร้อมกับเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นในธุรกิจ AI ทั่วโลก
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,025.10 จุด เพิ่มขึ้น 1,487.40 จุด หรือ +3.06%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,867.87 จุด เพิ่มขึ้น 37.22 จุด หรือ +0.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,961.70 จุด เพิ่มขึ้น 14.96 จุด หรือ +0.38%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 3.11% ส่วนดัชนี ASX/S&P 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 1.8%
Nvidia เปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2569 อยู่ที่ 1.30 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.25 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 5.701 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.492 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ Nvidia คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4/2569 จะอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.166 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างก็จับตาตัวเลขรายได้และการคาดการณ์รายได้ของอินวิเดียอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสัญญาณที่สามารถบ่งชี้ถึงกระแสความเฟื่องฟูของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของ Nvidia เป็นปัจจัยหนุนหุ้นบริษัทผลิตชิปในเอเชียทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นบริษัท SK Hynix ของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้จัดหาชิปหน่วยความจำแบนด์วิธสูงให้กับ Nvidia พุ่งขึ้น 4% และหุ้น Samsung Electronics ซึ่งเป็นผู้จัดหาชิปหน่วยความจำให้กับ Nvidia เช่นกัน พุ่งขึ้นเกือบ 4%
ส่วนหุ้น Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ผลิตชิปส่วนใหญ่ให้กับ Nvidia พุ่งขึ้น 4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นไต้หวัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)





