Micron ประกาศเลิกขายแรมตลาดผู้บริโภคแบรนด์ “Crucial” มุ่งเป้าผลิตชิป AI เต็มตัว

ไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ประกาศเมื่อวันพุธ (3 ธ.ค.) ว่าจะยุติธุรกิจหน่วยความจำสำหรับผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ “Crucial” เพื่อโยกทรัพยากรไปผลิตชิปหน่วยความจำขั้นสูงป้อนศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) แทน การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ส่งผลให้หุ้นของบริษัทปิดตลาดปรับตัวลง 2.23%

บริษัทจะยุติการวางจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Crucial ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านค้าปลีกหรือช่องทางออนไลน์ทั่วโลก แต่จะยังคงส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อผ่านช่องทางผู้บริโภคต่อไปจนถึงเดือนก.พ. 2569

สุมิต สาทนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของไมครอน อธิบายถึงเบื้องหลังการตัดสินใจว่า การเติบโตของเทคโนโลยี AI ทำให้ศูนย์ข้อมูลมีความต้องการหน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

“ไมครอนตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะออกจากธุรกิจผู้บริโภคแบรนด์ Crucial เพื่อปรับปรุงอุปทานและสนับสนุนลูกค้าเชิงกลยุทธ์รายใหญ่ในกลุ่มที่เติบโตเร็วกว่า” สาทนากล่าว

จินไก้ เฉิน นักวิเคราะห์จากซัมมิต อินไซต์ส (Summit Insights) มองว่า การยุบหน่วยธุรกิจนี้ไม่กระทบมากนัก เพราะตลาดผู้บริโภคไม่ใช่รายได้หลักของไมครอนอยู่แล้ว

ปัจจุบัน ไมครอนมุ่งเน้นธุรกิจชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) มานานแล้ว ซึ่ง HBM เป็นแรมชนิดพิเศษที่ซ้อนชิปในแนวตั้งเพื่อลดการใช้พลังงานและประมวลผลข้อมูลมหาศาลได้รวดเร็ว จึงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI โดยชิปชนิดนี้มีราคาสูงและทำกำไรได้ดีกว่าแรมทั่วไป ซึ่งปัจจุบันตลาดนี้มีการแข่งขันกันดุเดือดระหว่าง 3 ยักษ์ใหญ่คือ ไมครอน, เอสเค ไฮนิกซ์ (S.K. Hynix) และซัมซุง (Samsung)

ด้านรายได้นั้น สัญชัย เมห์โรตรา ซีอีโอของไมครอนเปิดเผยข้อมูลเมื่อเดือนก.ย.ว่า ในไตรมาสเดือนส.ค. ธุรกิจ HBM ทำรายได้เกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสร้างรายได้รายปีได้สูงถึงเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 68)