
AOT พุ่ง 9.47% มาที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,513.19 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.15 น.จากราคาเปิด 51.25 บาท ราคาสูงสุด 52.75 บาท ราคาต่ำสุด 50.75 บาท
บล.พาย ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” หุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] หลังจากได้ความชัดเจนในการปรับค่าบริการผู้โดยสารขาออก และการแก้ไขสัญญาร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินของ AOT โดยการปรับค่าบริการขึ้นสูงกว่าที่เราคาดไว้มาชดเชยกับสัญญาใหม่ของร้านค้าปลอดภาษีที่ต่ากว่าที่เคยประเมินไว้ แต่รวมแล้วรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าส่วนที่ลดลง ทำให้เราประเมินกำไรสุทธิปี 69 ขึ้นจากเดิม 27% มาอยู่ที่ 22,437 ล้านบาท (+24%YoY) จากเดิม 17,610 ล้านบาท โดยจะเริ่มเห็นการเติบโตจากปีก่อนตั้งแต่
บทวิเคราะห์ ระบุว่า 2 วันที่ผ่านมา (2-3 ธ.ค.) AOT มีข้อสรุปสำคัญออกมา 2 เรื่องได้แก่
1.การปรับสัญญาร้านค้าปลอดภาษีที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูมิภาค โดยปรับอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำใหม่ดังนี้
– สนามบินสุวรรณภูมิ เรียกเก็บผลตอบแทนขั้นต่ำต่อหัวที่ 232.9 บาท และเพิ่มขึ้นปีละ 5% พร้อมกับมีการเจรจาขอส่วนแบ่งรายได้ส่วนเพิ่มอีก 35% ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสารส่วนเกิน และมีการขยายสัญญากับ King Power ไปอีก 2 ปี (สัญญาปัจจุบันคิดผลตอบแทบขั้นต่ำต่อหัวที่ระดับ 372 บาท)
– ท่าอากาศยานดอนเมือง คิดผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อตารางเมตรที่ 39,187.76 บาท/ตร.ม./เดือน และเรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้ที่ระดับ 20% ใกล้เคียงกับสัญญาปัจจุบัน)
– ท่าอากาศยานภูมิภาค (เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต) เรียกเก็บผลตอบแทนขั้นต่ำต่อหัวที่ 129.67 บาท และเพิ่มขึ้นปีละ 5% ตั้งแต่ปี 2573 และเจรจาขอส่วนแบ่งรายได้ส่วนเพิ่มอีก 35% ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสารส่วนเกิน(สัญญาปัจจุบันประมาณ 184.8 บาท)
2.การปรับค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC)ระหว่างประเทศขึ้นจากเดิม 730 บาท/คน เป็น 1,120 บาท/คน ส่วนเส้นทางในประเทศยังคงเดิมที่ 130 บาท/คน คาดเริ่มใช้จริงในเดือน เม.ย. 69
ผลกระทบจากการปรับสัญญา King Power ตัวเลขที่ออกมาหากพิจารณาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีมูลค่าต่ำกว่าผู้ประกอบการรายที่ 2 จากการประมูลครั้งก่อน (5,800 เทียบกับ 6,800 ล้านบาท) แต่ตัวเลขจริงโอกาสออกมาสูงกว่าที่เรียกเก็บได้เนื่องจาก AOT มีการเจรจาขอส่วนแบ่งเพิ่มเข้ามาได้อีก ส่วนการปรับค่าบริการผู้โดยสารขาออกถือว่าสูงกว่าที่เรา เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 300 บาท/คน
จากผลข้างต้นทำให้เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 69 ขึ้นจากเดิม 27% มาอยู่ที่ระดับ 22,437 ล้านบาท โดยปรับรายได้ค่าบริการผู้โดยสารขึ้นจากเดิม 24% มาอยู่ที่ 35,949 ล้านบาท (รับรู้ค่าบริการใหม่เป็นเวลา 6 เดือนสำหรับปี 69) ส่วนรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์เราปรับลดจากเดิม 6% มาอยู่ที่ 16,729 ล้านบาทโดยเรายังไม่ได้รวมส่วนแบ่งเพิ่มเติมอีก 35% เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด
จากความชัดเจนเรื่องสัญญาร้านค้าปลอดภาษีและการปรับค่า PSC ทำให้ผลประกอบการในอนาคตจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งโดยจะเห็นในงวด ไตรมาส 3 ปี 69 (เม.ย.-มิ.ย.69) เป็นต้นไป ก่อนจะเติบโตโดดเด่นในปี 70 หลังจากรับรู้ค่าบริการใหม่เต็มปี รวมแล้วจากปัจจัยบวกดังกล่าวเราจึงปรับคำแนะนำการลงทุนเป็น “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 53 บาท (33.5XPER’26E) ทั้งนี้ AOT ประกาศจ่ายเงินปันผลสาหรับปี 68 ที่ 0.81 บาท/หุ้น XD 11 ธ.ค.68 จ่าย 5 ก.พ.69
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 68)





