ไต้หวันเมินทรัมป์กดดัน จี้มะกันอำนวยความสะดวกก่อนรับปากลงทุนผลิตเซมิคอนดักเตอร์

โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ คาดหวังว่าไต้หวันจะให้คำมั่นสัญญาลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ โดยลุตนิกเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันพุธ (3 ธ.ค.) ว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจาการค้าร่วมกัน แต่เป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ คือการนำฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มายังสหรัฐฯ

การแสดงความเห็นล่าสุดของลุตนิก สอดคล้องกับที่เขาเคยกล่าวไว้ในเดือนก.ย.ว่า เขาต้องการให้สหรัฐฯ สามารถผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้ประมาณ 40% – 50% ของปริมาณการใช้ภายในประเทศ

ทางด้าน ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ส่งสัญญาณว่า การเจรจาการค้าครั้งนี้ยังมีหลายประเด็นที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้โครงการต่าง ๆ สำเร็จลุล่วง โดยเขากล่าวในการประชุม “DealBook Summit” ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สจัดขึ้นในวันพุธว่า ไต้หวันสนับสนุนเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงความพยายามที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยเป้าหมายดังกล่าวจะกำหนดให้สหรัฐฯ ต้องลดการพึ่งพาไต้หวันในฐานะแหล่งผลิตชิปสำคัญ และเพื่อให้แผนเหล่านั้นบรรลุผล บริษัทไต้หวันต้องการการรับประกันเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการลงทุน

ปธน.ไล่กล่าวว่า ไต้หวันเข้าใจความเร่งด่วนของปธน.ทรัมป์ แต่การที่เป้าหมายการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสัดส่วน 40% – 50% ของสหรัฐฯ จะสามารถบรรลุได้ภายในกรอบเวลานี้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของไต้หวันเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการอำนวยความสะดวกในการจัดหาที่ดิน การจัดหาน้ำประปาและไฟฟ้า ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรและผู้มีความสามารถ และแรงจูงใจในการลงทุน

ทั้งนี้ ปธน.ไต้หวันกล่าวเพิ่มเติมว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ เป้าหมายนี้ก็มีโอกาสที่จะบรรลุผลได้มากขึ้น

สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าเล็กน้อยสู่ระดับ 31.33 ดอลลาร์ไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์ของบริษัท BNY ในฮ่องกงกล่าวว่า การที่ดอลลาร์ไต้หวันยังคงแข็งค่าเป็นเพราะรัฐบาลไต้หวันไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุน

ส่วนสกุลเงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลงในเดือนต.ค. หลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 3.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินวอน จนทำให้เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ต้องออกมาเคลื่อนไหวด้วยการให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการรักษาเสถียรภาพตลาดหากจำเป็น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 68)