
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) กล่าวว่า BAM ในฐานะผู้บริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ได้ขยายความร่วมมือในการจำหน่ายทรัพย์ของ BAM ผ่านกลยุทธ์ Partnership อย่างครบวงจร โดยใช้บริษัทตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผสานกับเทคโนโลยีและกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลสมัยใหม่ พร้อมทั้งผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญในการให้สินเชื่อ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการ และจำหน่ายทรัพย์ของ BAM เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ BAM จะผนึกกำลังความเป็นมืออาชีพของ Agentplus เพื่อช่วยหาบุคคลที่สนใจซื้อทรัพย์สินรอการขาย(NPAs) และเป็นตัวแทนในการจำหน่ายทรัพย์ NPAs ของ BAM โดยประสานความร่วมมือกับ MBKG ซึ่งจะสนับสนุนการให้สินเชื่อซึ่งคาดหวังว่าทรัพย์ NPAs ของ BAM สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าทั้งผู้ซื้อรายย่อย นักลงทุน และนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
“เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่าง BAM, Agentplus และMBKG จะช่วยจุดประกายให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ผ่านโครงการที่นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเป็น NPAs Smart Agent ที่เชื่อมโยงผู้ถือครองทรัพย์-บริษัทตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์-ผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยทำให้สามารถจำหน่ายทรัพย์ และให้บริการด้านสินเชื่ออย่างครบวงจร สร้างมูลค่าและหมุนเวียนกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน” นายรักษ์กล่าว
พร้อมระบุว่า BAM มีทรัพย์ทั้งหมดเกือบ 30,000 ชิ้น ซึ่งการระบายทรัพย์ หากทำในอัตราปกติของ BAM คาดว่าจะระบายได้ปีละ 1,000-1,500 ชิ้น คงต้องใช้เวลานานถึง 20 ปี ซึ่งคงไม่ตอบโจทย์ผู้ถือหุ้น และไม่ตอบโจทย์ Landscape ของประเทศในวันนี้ ดังนั้นในวันที่คนตัวเล็กต้องการทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน MBKG ก็จะเป็นหนึ่งในนอนแบงก์ ที่เราตั้งใจดึงเข้ามาเป็นพันธมิตรของ BAM ซึ่งเป็นการเริ่มต้นครั้งแรก และในอนาคตจะมีพันธมิตรเข้ามาเพิ่มเติมอีก
- BAM มั่นใจผลเรียกเก็บเงินสดปีนี้ ได้ตามเป้า 17,800 ล้านบาท คาดปีหน้าโตเพิ่ม 3%
นายรักษ์ ยืนยันเป้าหมายผลเรียกเก็บเงินสดในปีนี้ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 17,800 ล้านบาทได้ และคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 1,880 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2569 ตั้งเป้าว่าทั้งผลเรียกเก็บเงินสด และกำไรสุทธิ จะต้องเพิ่มขึ้นจากปีนี้อย่างน้อย 3% โดยในส่วนของผลเรียกเก็บเงินสด ตั้งเป้าว่าจะอยู่ที่ราว 18,300 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายดังกล่าว จะนำเข้าเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดในวันที่ 12 ธ.ค.นี้
“เรามั่นใจถึง 70% ว่าตัวเลขผลเรียกเก็บจะได้ตามเป้าที่ 17,800 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ ที่ 1,880 ล้านบาท ซึ่งใน 9 เดือนแรก ก็ทำได้แล้ว 1,695 ล้านบาท ปันผลปีนี้ คาดว่าจะดีกว่าปีก่อน…ส่วนปีหน้าตั้งเป้าจะโต 3% ในทุกมิติทั้งผลเรียกเก็บ และกำไรสุทธิ เราอยากโตอย่างมั่นคง และสม่ำเสมอ การดำรงตำแหน่งของผม จะไม่ได้เห็น BAM เป็นแบบ Roller Coaster แต่ BAM จะเป็นหุ้นที่นิ่ง และมั่นคง” นายรักษ์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น นายรักษ์ กล่าวว่า BAM จะทำการพักหนี้ให้ลูกหนี้ที่เป็นผู้ประสบภัย เป็นระยะเวลารวม 6 เดือน และจะหยุดการดำเนินคดีไว้ 6 เดือน เพื่อให้ลูกหนี้สามารถกลับมายืนได้ใหม่อีกครั้ง
“ตอนแรก เราตั้งใจจะพักหนี้ 3 เดือน แต่พอไปเจอหน้างานจริง ๆ คิดว่า 3 เดือนคงเอาไม่อยู่ เราจึงเป็น AMC แรกที่ประกาศว่าจะพักหนี้ให้ถึง 6 เดือน และหยุดการดำเนินคดีไว้ 6 เดือน เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ สามารถกลับมายืนได้ใหม่อีกครั้ง” นายรักษ์ ระบุ
ด้านนายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอ็มบีเค (MBK) และประธานกรรมการบริษัท เอ็มบีเคการันตี จำกัด หรือ MBKG ธุรกิจในเครือเอ็มบีเค กล่าวว่า เป้าหมายร่วมกันในครั้งนี้ คือการเร่งสร้างยอดจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญต่อระบบนิเวศของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งช่วยแก้ปัญหา “ช่องว่างทางการเงิน” ของผู้ซื้อ ทั้งนักลงทุน และผู้ซื้อรายย่อยที่มักประสบข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลัก
ทาง MBKG จึงเข้ามาเติมเต็ม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับความร่วมมือนี้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการสินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพสูงเป็นหลักประกัน รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ นำเสนอทางเลือกทางการเงินที่รวดเร็ว และเหมาะสมกับผู้ซื้อทรัพย์ NPA ได้อย่างแท้จริง กระตุ้นให้การซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างราบรื่น และรวดเร็วที่สุด
“ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานของการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการทรัพย์ NPA ในประเทศไทย พร้อมผลักดันให้ทรัพย์ที่มีมูลค่า สามารถหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ซื้อทุกกลุ่ม” นายสุเวทย์ ระบุ

น.ส.ปติมา จิราธำรงชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ้นพลัส (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ Agentplus กล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างทั้ง 3 องค์กร มุ่งเน้นการสนับสนุนการบริหารสินทรัพย์ การพัฒนาเครื่องมือทางการตลาด และการขยายช่องทางการขายทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะทรัพย์ประเภท NPA ของ BAM
โดยเป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ร่วมในการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ผ่านการบูรณาการข้อมูลการสร้างระบบสนับสนุนตัวแทนขาย และการยกระดับการบริการลูกค้าให้โปร่งใส ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
“การทำงานร่วมกัน จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่เครือข่ายตัวแทน และเสริมโอกาสทางการตลาดในภาพรวม พร้อมผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ พิธีลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างผู้นำด้านการบริหารสินทรัพย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่พร้อมร่วมกันพัฒนาโซลูชัน และระบบการทำงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า นักลงทุน และตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม” น.ส.ปติมากล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 68)




