
มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุถูกหมีทำร้ายในญี่ปุ่นสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 230 รายนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นถูกกดดันมากขึ้นให้เร่งดำเนินมาตรการ เนื่องจากหมีเริ่มเข้ามาในพื้นที่อยู่อาศัยของผู้คนลึกขึ้นกว่าเดิม
กระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (5 ธ.ค.) ว่า ในช่วง 8 เดือนจนถึงสิ้นเดือนพ.ย. มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย และบาดเจ็บ 217 รายจากเหตุถูกหมีทำร้าย ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าสถิติเดิมที่ 219 รายในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2567 โดยประมาณสองในสามของเหยื่ออยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ทางตอนเหนือซึ่งมีประชากรเบาบาง
ญี่ปุ่นเป็นที่อยู่อาศัยของหมีสีน้ำตาลฮอกไกโดและหมีดำเอเชีย ซึ่งหมีดำเอเชียมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุทำร้ายมนุษย์ถึง 97% ในปีนี้ สาเหตุสำคัญมาจากพื้นที่เกษตรกรรมที่ถูกปล่อยทิ้งร้างและชุมชนผู้สูงวัยที่ลดลง ทำให้การอยู่อาศัยของมนุษย์ในพื้นที่ภูเขาลดน้อยลง หมีจึงออกจากถิ่นป่ามุ่งหน้าเข้ามาใกล้เมืองมากขึ้นเพื่อหาอาหาร
ข้อมูลจากกระทรวงระบุว่า มีรายงานการพบเห็นหมีทั่วประเทศจำนวน 36,814 ครั้งในช่วงเดือนเม.ย.–ต.ค. 2568 หรือเกือบสองเท่าของปีงบประมาณก่อนหน้า แม้แต่ในกรุงโตเกียวเองก็พบเห็นหมีถึง 142 ครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาประชากรลดลงยังทำให้จำนวนพรานป่าที่เคยช่วยควบคุมจำนวนหมีนั้นลดน้อยลงด้วย ซึ่งยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 68)





