ญี่ปุ่นลดประมาณการ GDP Q3 เป็นหดตัว 2.3% จากหดตัว 1.8% หลังลงทุนชะลอตัว

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (8 ธ.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริง หดตัวลง 2.3% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าหดตัว 1.8% โดยเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการลงทุนในภาคธุรกิจ และความไม่แน่นอนที่เป็นผลมาจากภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส โดยถูกกดดันจากหลายปัจจัยชั่วคราว ซึ่งรวมถึงการส่งออกที่ซบเซา อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการส่งออกของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวในไตรมาสเดือนต.ค.-ธ.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มคลี่คลายลงหลังการเจรจา

ส่วน GDP ที่แท้จริงที่ปรับค่าเงินเฟ้อเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส หดตัวลง 0.6% ในไตรมาส 3 เทียบกับการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าหดตัวลง 0.4%

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการประมาณการ GDP ครั้งล่าสุดนี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า การใช้จ่ายด้านทุนปรับตัวลง 0.2% ในไตรมาส 3 สวนทางกับการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าเพิ่มขึ้น 1% ขณะที่การลงทุนในภาครัฐลดลง 1.1% สวนทางกับการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าปรับตัวขึ้น 0.1%

ส่วนการบริโภคในภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP นั้น ปรับตัวขึ้น 0.2% ในไตรมาส 3 ซึ่งดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าเพิ่มขึ้น 0.1% อย่างไรก็ดี การขยายตัวของการบริโภคในภาคเอกชนยังคงซบเซา เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้ทำให้ภาคครัวเรือนลดการใช้จ่าย

ขณะที่การส่งออกลดลง 1.2% ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น ส่วนยอดนำเข้าลดลง 0.4% ย่ำแย่กว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าลดลง 0.1% เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนทำให้ต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยลดลง 8.2% ในไตรมาส 3 เทียบกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าลดลง 9.4% หลังมีการเร่งดำเนินการก่อสร้างในช่วงต้นปีนี้ ก่อนที่รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายด้านการก่อสร้างที่มีความเข้มงวดมากขึ้นในเดือนเม.ย. เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการใช้คาร์บอน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 68)