เกาหลีใต้คาดยอดส่งออกไม่รวมเซมิคอนดักเตอร์ลดลงปีนี้ เหตุการค้าโลกไม่แน่นอน

กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และทรัพยากรของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกซึ่งไม่รวมเซมิคอนดักเตอร์ จะลดลง 1.5% ในปี 2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 4.876 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากความไม่แน่นอนของการค้าโลก รวมทั้งการชะลอตัวในหลายภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก ปิโตรเคมี และแบตเตอร์รี

เซมิคอนดักเตอร์มีสัดส่วน 28.3% ของยอดส่งออกทั้งหมดของเกาหลีใต้ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในปีนี้ และทำให้ทางการเกาหลีใต้วิตกกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาภาคส่วนนี้มากเกินไป โดยในช่วงปี 2545-2553 เซมิคอนดักเตอร์เคยมีสัดส่วนเพียง 10% ของยอดส่งออกโดยรวม

คัง คัม-ชาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและการลงทุนของเกาหลีใต้กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่องไปถึงปีหน้า เนื่องจากการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศูนย์ข้อมูล

หากไม่นับรวมเซมิคอนดักเตอร์ ทางการเกาหลีใต้คาดการณ์ว่ายอดส่งออกในปี 2568 จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7 แสนล้านดอลลาร์

ส่วนยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 6.104 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ของทุกปี และเป็นการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโตแข็งแกร่ง

ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.2% แตะที่ 5.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 9.73 พันล้านดอลลาร์

ส่วนยอดส่งออกโดยรวมในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. อยู่ที่ระดับ 6.402 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงเวลาดังกล่าว

รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์เดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 38.6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.726 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากราคาชิปหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความต้องการที่แข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงสำหรับศูนย์ข้อมูล

เมื่อแยกเป็นรายประเทศพบว่า ยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. แตะที่ 1.035 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อลงในรายละเอียดพบว่า ในช่วง 25 วันแรกของเดือนพ.ย. ยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 39% แตะที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์ และยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 11% แตะที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์ แต่ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็ก ร่วงลง 24% แตะที่ 200 ล้านดอลลาร์ และยอดส่งออกเครื่องจักรลดลง 18% แตะที่ 800 ล้านดอลลาร์

ยอดส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้น 6.9% สู่ระดับ 1.207 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และเครื่องจักรที่แข็งแกร่ง ขณะที่ยอดส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน เพิ่มขึ้น 6.3% แตะที่ 1.042 หมื่นล้านดอลลาร์ และยอดส่งออกไปยังตะวันออกกลางพุ่งขึ้น 33.1% แตะที่ 2.18 พันล้านดอลลาร์

ส่วนยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ลดลง 1.9% แตะที่ 5.34 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. เนื่องจากอุปสงค์เหล็กและเรือชะลอตัวลง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 68)