
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ ว่าที่ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] เปิดเผยกับ”อินโฟเควสท์” ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ AOT เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 68 มีมติอนุมัติแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารฝั่งใต้ (South Terminal) ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคน/ปี คาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) น่าจะอนุมัติในเดือน ก.พ.69
โครงการ South Terminal จะรวมถึงทางวิ่งเส้นที่ 4 (Runway 4) โรงไฟฟ้า, โรงเก็บน้ำ, ถนนเส้นใหม่ วงเงินลงทุน 2.2 แสนล้านบาท คาดใช้เวลาก่อสร้าง 10 ปี นอกจากนั้น แผนแม่บทยังจะมีการสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) คลังสินค้า (Cargo) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน อาทิ ศูนย์ฝึกอบรม เป็นต้น เพื่อหนุนให้ไทยเป็น Aviation Hub
การก่อสร้าง South Terminal แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรก เป็นการย้ายถนนที่ทับเส้นทางรันเวย์ 4 (ถนนเชื่อมบางนา-ตราดกับมอเตอร์เวย์) คาดว่าจะใช้เวลาออกแบบถนนเส้นใหม่เชื่อมระหว่างด้านทิศเหนือกับทิศใต้ราว 6-8 เดือน การก่อสร้างจะดำเนินไปพร้อมกับการปรับสภาพดิน.(Soil consolidation) เพื่อใช้ทำรันเวย์ 4 คาดใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง-2 ปี นอกจากนี้ยังต้องสร้างโรงไฟฟ้า ส่วนเก็บน้ำประปา และสาธารณูปโภคอื่นๆ โดยจะแยกเปิดประมูลในแต่ละงาน
จากนั้น เฟสที่ 2 จะสร้างอาคารด้านฝั่งตะวันตก พร้อมอาคารส่วนควบ อาทิ ลานจอดรถ ที่จอดรถ และเฟส 3 จะเป็นการก่อสร้างอาคารด้านฝั่งตะวันออก และเริ่มสร้างรันเวย์ 4
ทั้งหมดรวมแล้วใช้เวลาประมาณ 8 ปีเป็นอย่างช้า อย่างเร็วใช้เวลา 6-7 ปี คาดว่าจะเปิดใชอาคาร South ส่วนแรกในปี 75 หรือปี 76
พร้อมกันนั้นจะปรับปรุงอาคาร Main Terminal ที่เก่ามากแล้ว ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้ 65 ล้านคน และเมื่อร่วมส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) ที่กำลังจะก่อสร้าง คาดว่าจะรองรับได้เพิ่มเป็น 70 ล้านคน เมื่อรวมกับ SAT-1 และรันเวย์ 3 น่าจะรองรับได้รวมทั้งสิ้น 80 ล้านคน
นางสาวปวีณา คาดว่า ครม.จะอนุมัติการลงทุนส่วนต่อขยาย East Expansion วงเงินลงทุน 12,000 ล้านบาทภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะเพิ่มพื้นที่ Landside 81,000 ตร.ม. เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วก็จะเดินหน้าลงทุนทันที โดยจะเปิดประมูลช่วงต้นปี 69 งานก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 4 ปี
“ปีหน้าเตรียมเปิดประมูล East Expansion และผู้ออกแบบถนนและงานปรับสภาพดิน Soil consolidation ใช้เวลาประมาณ 8 เดือน ขณะเดียวกันจะเปิดประมูลการออกแบบอาคาร South Terminal ซึ่งใช้เวลาออกแบบประมาณ2 ปี ดังนั้นปีหน้าจะเห็นโครงการประมูลของ AOT เยอะ”นางสาวปวีณา กล่าว
ว่าที่ ผอ.AOT กล่าวว่า อาคาร Main Terminal เก่าแล้วทำให้ต้องเร่งขยายด้าน South เพื่อผ่องถ่ายผู้โดยสารไปใช้อาคาร South ที่เสร็จในเฟสแรก แล้วก็ปิดปรับปรุง Main Terminal 4 คาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงประมาณ 2 ปี
เล็งชงครม.ปรับวงเงินลงทุนดอนเมืองเฟส 3 ใหม่
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 นางสาวปวีณา กล่าวว่า AOT จะเสนอ ครม.เพื่อปรับเพิ่มวงเงินลงทุนหลังวงเงินเดิม 36,829.499 ล้านบาทประเมินไว้ตั้งแต่ปี 61 โดยจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ (International Terminal) หรือ อาคาร 3 ด้านทิศใต้ พื้นที่ใช้สอยกว่า 166,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ
“เรามีแผนก่อสร้างอาคารTerminal 3 ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี คาดเปิดใช้อาคาร ปี 73 โดยได้ออกแบบอาคารเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดประมูลได้เร็วๆนี้”นางสาวปวีณากล่าว
ทั้งนี้ แผนเดิมจะปรับปรุงอาคาร 1 มารวมกับอาคาร 2 แต่ล่าสุด AOT เห็นว่าอาคาร 1 ไม่ควรจะปรับปรุงแล้วเพราะโครงสร้างอาคารเก่ามาก ความแข็งแรงของอาคารลดลง หากปรับปรุงก็ใช้งานได้ไม่เกิน 20 ปี แต่เงินลงทุนเทียบเท่ากับการสร้างอาคารใหม่จึงมองว่าไม่คุ้มค่า ท่าอากาศยานดอนเมืองใช้อาคาร 2 และอาคาร 3 ก่อนน่าจะพอ ถ้าจำเป็นก็ทุบอาคาร 1 แล้วสร้างใหม่จะดีกว่า
หลังการขยายเฟส 3 ท่าอากาศยานดอนเมืองจะรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 40 ล้านคน/ปี จาก 30 ล้านคน/ปีในปัจจุบัน
ทั้งนี้ หลัง AOT ลงทุนขยายท่าอากาศยานทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมืองจะรองรับผู้โดยสารรวมกันได้ 160-170 ล้านคน/ปี โดยสุวรรณภูมิรับได้สูงสุด 120 ล้านคน/ปี ดอนเมือง 40 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันรวมกันรองรับได้ 90 ล้านคน/ปี
นางสาวปวีณา กล่าวว่า ส่วนร้านดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ต้องย้ายตามจากอาคาร 1 ไปที่อาคาร 3 ทำให้คิงเพาเวอร์ต้องมีการลงทุนใหม่ ไม่สามารถนำจากอาคารเดิมออกไปได้ ทางคิงเพาเวอร์จึงขอขยายเวลานับจากวันที่ย้ายเริ่มนับประกอบการกิจการอีก 5 ปีถึงจะคุ้มกับการลงทุนใหม่ทั้งหมด ซึ่งมองว่า ปี 73 ที่ย้ายไปอาคาร 3 ยังเหลือระยะเวลาสัญญาดิงตี้ฟรีอีก 3 ปี และต่อเวลาอีก 2 ปีรวมเป็น 5 ปีตามที่คิงเพาเวอร์ขอมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 68)





