
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี [CHAO] เปิดเผยถึงภาพรวมความสำเร็จในไตรมาส 3/68 ว่า บริษัทสามารถสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศได้อย่างโดดเด่น โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 19.7% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ปัจจัยสำคัญมาจากความสำเร็จการบุกตลาดจีนด้วยสินค้าใหม่ “ข้าวตังกุ้งหยองรสผัดไทย” (Rice Cracker with Shrimp Floss and Pad Thai Sauce) ที่เริ่มวางจำหน่ายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคชาวจีน โดยมียอดการซื้อซ้ำ (Repeat Purchase) ในอัตราสูง ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ที่ตรงจุดบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Xiaohongshu, TikTok, IQiyi และ WeChat เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นสัญญาณบวกจากตลาดสหรัฐอเมริกาที่ยอดขายกลุ่ม Cereal Cracker กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จากการขยายพื้นที่วางจำหน่ายที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดสู่ยุโรป โดยล่าสุดได้ส่งออกสินค้าล็อตแรกไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์เรียบร้อยแล้ว และเดินหน้าขยายตลาดในสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้นำนวัตกรรม ‘Modern Thai Snack’ ไปจัดแสดงในงาน Anuga 2025 ที่เยอรมนี เพื่อเปิดประตูสู่ตลาดสากลให้กว้างขึ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากคู่ค้าต่างประเทศอย่างมาก สะท้อนศักยภาพในการนำพาแบรนด์ขนมขบเคี้ยวรสชาติไทยไปสู่ระดับโลก
สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 68 ว่า บริษัทฯ จะขับเคลื่อนการเติบโตด้วยกลยุทธ์ Aggressive NPD (New Product Development) อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าสัวได้วางจำหน่ายสินค้าใหม่รวมกว่า 30 SKUs ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพ (Better-for-you Snack) และรสชาติที่แปลกใหม่
นอกจากนี้ ตลาดในประเทศ บริษัทฯ เดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่ม B2B อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จับมือกับ “แม็คโคร” (Makro) ในการพัฒนาสินค้าเบเกอรี่ใหม่อย่างขนมปังคัสตาร์ดไข่เค็มหน้าหมูหยอง ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์หมูหยองของเจ้าสัวเข้าสู่ตลาดเบเกอรี่ ช่วยขยายช่องทางจัดจำหน่ายและสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ความร่วมมือ (Collaboration) ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์ร่วมกัน (Co-Product & Co-Brand) กับพันธมิตร โดยมุ่งเน้นการเติบโตร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAO กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปีเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปัจจัยบวกจากเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศคาดว่าจะกลับมาคึกคักน นอกจากนี้ บริษัทเตรียมพร้อมจะเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ควบคู่ไปกับการรุกตลาดต่างประเทศที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์ความร่วมมือในการพัฒนาสินค้า (Joint Product Development) กับพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อรังสรรค์รสชาติที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่น (Localization) ซึ่งจะช่วยผลักดันให้พอร์ตรายได้จากต่างประเทศเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามเป้าหมายที่วางไว้
“ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์บริหารจัดการพอร์ตผลิตภัณฑ์ (Product Mix) และช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel Mix) โดยเน้นโฟกัสกลุ่มที่มี High Margin สำหรับทิศทางในไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของปี เราเห็นสัญญาณบวกที่แข็งแกร่ง ทั้งจากกำลังซื้อในประเทศช่วงเทศกาล การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เมื่อประกอบกับแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เตรียมไว้ จะเป็นแรงส่งสำคัญให้ยอดขายในช่วงไฮซีซันนี้เติบโตตามเป้า สอดรับกับแผนงานที่เราเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยนวัตกรรมสินค้าใหม่รวมกว่า 30 SKUs” นางสาวณภัทร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 68)




