
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เสนอ “เปิด 3 แนวรบ” จบปัญหาถาวรระบอบ “ฮุน เซน” โดยระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์ปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ และสถานการณ์จนถึงเช้านี้ ได้พัฒนากลายเป็นการปะทะทางทหาร ตลอดแนวพรมแดนด้านตะวันออก
โดยยืนยันว่าการรบเพื่อปกป้องประชาชน และรับมือภัยคุกคามจากนอกประเทศ เป็นความชอบธรรมของไทยที่จะทำ แต่การรบเพียงอย่างเดียว จะยังไม่สามารถจบปัญหากัมพูชาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ และยังเสี่ยงที่ไทยจะตกหลุมพรางกัมพูชาในสงครามข่าวสาร
“วันนี้เราเผชิญ Hybrid Warfare การรบที่มีหลายแนว หลายรูปแบบ ไม่ใช่การปะทะด้วยอาวุธ ที่จะเอาชนะกันด้วยความเหนือกว่าทางกำลังและขีดความสามารถในการรบเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว
พร้อมเสนอให้รัฐบาล ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิด “3 แนวรบ” ระดมทุกสรรพกำลังเพื่อจบเกมรัฐบาลกัมพูชา ดังนี้
1. แนวรบทางทหาร ซึ่งรัฐบาลได้ประกาสสนับสนุนและกองทัพได้ดำเนินการอยู่แล้ว การรบอย่างเต็มกำลัง โดยมุ่งทำลายเป้าหมายทางทหาร เพื่อขจัดขีดความสามารถในการรบของกัมพูชา
2. แนวรบข่าวสาร กระทรวงการต่างประเทศ ต้องเร่งชี้แจงว่าไทยมีความชอบธรรมในการปกป้องตนเองต่อประชาคมโลก และเราจำกัดขอบเขตโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารอย่างเคร่งครัด ต้องนำเกม อย่าตามเกมกัมพูชา ที่รอวันนี้เพื่อรับบทประเทศเล็กกว่าถูกประเทศใหญ่รังแก
3. แนวรบโลกล้อมกัมพูชาด้วยการปราบสแกมเมอร์ รัฐบาลต้องเดินหน้าสุดซอยในการขุดรากถอนโคน “ขบวนการสแกมเมอร์” ซึ่งเป็นหัวใจของระบอบฮุน เซน อย่าทำแค่จัดประชุมเรื่องปราบสแกมเมอร์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ รัฐบาลต้องมีแผนการมากกว่านี้ กระทรวงการต่างประเทศ ต้องคิดว่าจะประสานความร่วมมือกับแต่ละประเทศอย่างไร ในการจัดการสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
นายณัฐพงษ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี เรื่องการอายัดทรัพย์ เบน สมิธ, ยิม เลียก, ก๊ก อาน, และเฉินจื้อ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงนั่งกันเป็นแถวยาว แต่กลับไม่มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ แสดงว่าในใจของคุณอนุทิน กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ในแนวหน้าเรื่องการปราบสแกมเมอร์เลย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะหัวใจสำคัญของการปราบสแกมเมอร์ คือต้องเอาโลกล้อม “ตระกูลฮุน”
นอกจากกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเดินหน้าสุดซอยเรื่องใช้โลกล้อมระบอบฮุน เซน ปราบสแกมเมอร์ ป.ป.ง. ก็ต้องสุดซอย เดินหน้าตรวจสอบเส้นเงิน อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ไม่ใช่แค่เบน สมิธ, เฉินจื้อ, ยิม เลียก แต่ต้องขยายผลถึงคนไทยที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง อย่าตัดตอนแค่ที่ชาวต่างชาติ ต้องไม่สนใจว่าคนไทยที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร มีอิทธิพลทางการเมืองแค่ไหน มิฉะนั้นก็เท่ากับการปราบสแกมเมอร์ เป็นเพียงปาหี่ลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น
“ขอย้ำว่าครั้งนี้คือ Endgame คือโอกาสที่เราจะจบปัญหาความมั่นคงที่ชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยอย่างถาวร จัดการระบอบฮุน เซน ที่เป็นภัยคุกคามต่อทั้งชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทำให้ทหารไทยต้องสูญเสียชีวิตและอวัยวะมาหลายครั้ง รัฐบาลต้องอย่าให้ทหารรบอยู่แนวเดียว ทุกองคาพยพ ต้องระดมสรรพกำลังเพื่อจัดการกัมพูชาอย่างเป็นระบบ เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงของประเทศชาติ” หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว
พร้อมกับส่งความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนที่ต้องเดือดร้อนอพยพหนีภัยการสู้รบตลอดแนวชายแดน และขอส่งกำลังใจให้กับทหารที่หน้าแนวทุกนาย หวังว่าทุกท่านจะปลอดภัย และได้กลับบ้านไปหาคนที่รักในเร็ววัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 68)





