
สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติอินโดนีเซีย (BNPB) เปิดเผยว่า อินโดนีเซียจำเป็นต้องใช้งบไม่ต่ำกว่า 51.8 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่บนเกาะสุมาตราที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มครั้งล่าสุด โดยฝนมรสุมที่ทวีความรุนแรงจากพายุไซโคลนผิดฤดูกาลเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 900 ราย ทั้งยังมีผู้สูญหายเกือบ 400 ราย และประชาชนราว 1 ล้านคนต้องอพยพออกจากพื้นที่
ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ผู้นำอินโดนีเซีย เดินทางลงพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์ และประกาศเตรียมจัดสรรงบช่วยเหลือให้จังหวัดสุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก และอาเจะห์ สูงสุดจังหวัดละ 20,000 ล้านรูเปียห์ ตามระดับความเสียหาย พร้อมอนุมัติงบฉุกเฉินเพิ่มเติม 4,000 ล้านรูเปียห์ ให้ 52 เมืองและอำเภอที่ใช้งบสำรองรับมือภัยพิบัติหมดแล้ว
ด้านเปอร์บายา ยูดี ซาเดวา รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียมองว่า เหตุภัยพิบัติครั้งนี้อาจกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 4/2568 โดยผลกระทบต่อภาคเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานยังอยู่ระหว่างประเมิน ความเสียหายกระจายวงกว้างครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันและกาแฟ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งขยายปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ แม้ระดับน้ำในบางพื้นที่เริ่มลดลง แต่ถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานที่พังเสียหายยังทำให้หมู่บ้านหลายร้อยแห่งถูกตัดขาด โดย BNPB ระบุว่า ได้เร่งกระจายสิ่งของช่วยเหลือแล้ว 167 ตันในจังหวัดอาเจะห์ พร้อมติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตชั่วคราวผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) เพื่อเชื่อมต่อหลายอำเภอที่ยังไม่สามารถใช้งานระบบสื่อสารได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 68)





