ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีเม็กซิโก 5% หากไม่เร่งปล่อยน้ำช่วยเกษตรกรสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ (ภาพ: thaigov.go.th)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ว่า เขาเตรียมพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกเพิ่มเติมอีก 5% หากเม็กซิโกไม่เร่งจัดสรรน้ำให้สหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกร โดยชี้ว่าเม็กซิโกละเมิดเงื่อนไขการแบ่งปันน้ำตามสนธิสัญญาระหว่างสองประเทศ

ตามสนธิสัญญาดังกล่าว เม็กซิโกจำเป็นต้องส่งน้ำจำนวน 1.75 ล้านเอเคอร์ฟุตให้สหรัฐฯ จากแม่น้ำริโอแกรนด์ภายในรอบทุก 5 ปี ผ่านระบบเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่เชื่อมต่อกัน แต่ทรัมป์ระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เม็กซิโกยังติดค้างน้ำอยู่ 800,000 เอเคอร์ฟุต และต้องการให้เม็กซิโกปล่อยน้ำ 200,000 เอเคอร์ฟุตภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ พร้อมจัดสรรเพิ่มเติมหลังจากนั้น

ทรัมป์ชี้ว่า สถานการณ์น้ำที่ขาดแคลนสร้างแรงกดดันต่อผลผลิตการเกษตรและปศุสัตว์ในรัฐเท็กซัส พร้อมระบุว่าเม็กซิโกยังไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกรที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรน้ำเหล่านี้ และเป็นเหตุผลที่เขาได้อนุมัติเอกสารเพื่อเตรียมบังคับใช้ภาษีนำเข้า 5% หากเม็กซิโกยังไม่เร่งปล่อยน้ำ

ขณะเดียวกัน กระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโกยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใด ๆ ต่อประเด็นนี้ ด้านข้อมูลก่อนหน้านี้ในเดือนเม.ย. 2568 บรูค โรลลินส์ รัฐมนตรีเกษตรสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เม็กซิโกยอมเพิ่มปริมาณน้ำที่ส่งไปยังรัฐเท็กซัสเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดไปตามสนธิสัญญาปี พ.ศ. 2487 ขณะที่ฝ่ายเม็กซิโกอ้างว่าประเทศกำลังเผชิญภาวะแห้งแล้ง ทำให้ทรัพยากรน้ำภายในประเทศตึงตัว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 68)