ไทย-กัมพูชา: สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่ 6 จังหวัดชายแดนแล้ว เกือบ 1 พันแห่ง

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ เผยความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องในหลายจุดส่งผลให้ชุมชนพื้นที่ชายแดนต้องเฝ้าระวังสูงสุด โดยโรงเรียนจำนวนมากในพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรในสังกัด

ล่าสุด สถานศึกษาที่สั่งปิดเรียนชั่วคราว เพิ่มขึ้นจาก 641 ราย เป็น 990 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว อุบลราชธานี และตราด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ใกล้แนวปะทะ และเสี่ยงต่อสถานการณ์ความไม่สงบ

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ เปิดโรงเรียนเป็นศูนย์พักพิงให้แก่บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเด็กนักเรียนและประชาชนในพื้นที่แล้วรวม 22 แห่ง สามารถรองรับประชาชนได้สูงสุด 14,280 คน ซึ่งทุกศูนย์มีการเตรียมพร้อมเครื่องนอน อาหาร น้ำดื่ม ระบบไฟฟ้า ห้องสุขา และพื้นที่ดูแลเด็กเล็กอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคง อปท. และภาคีเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพนักเรียน และครูอย่างใกล้ชิด รวมถึง ศธ.ได้เตรียมระดมทรัพยากรไปสนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยง ทั้งอาหาร เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนทีมดูแลด้านจิตใจให้เด็กและครู เพื่อบรรเทาความเครียดจากสถานการณ์ และสร้างความมั่นคงด้านสวัสดิภาพในระยะยาว

“ขอขอบคุณครู อาจารย์ และบุคลากรการศึกษาทุกท่าน ที่ยังคงทำหน้าที่ดูแลนักเรียน และประชาชนในศูนย์พักพิง แม้ในสถานการณ์ยากลำบาก ก็ยังคงยืนหยัดเพื่อเด็ก ๆ ขอให้ทุกคนรักษาความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เราจะสนับสนุนทุกด้านอย่างเต็มที่ และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” นางนฤมล กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 68)