
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่แผนกกงสุลตำรวจสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เข้าจับกุมผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้และชาวจีน รวมจำนวน 17 ราย กระทำความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่คอนโดมิเนียมย่านพระราม 3 และย่านลุมพินี กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ CIB ได้รับการประสานข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยว่ามีกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้หลบหนีเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในประเทศไทย โดยเริ่มจากการเข้าตรวจค้นพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี พบผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งมีหมายจับตำรวจสากล (Interpol Red Notice) มีพฤติการณ์หลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่โดยแอบอ้างบริษัทรีสอร์ตชื่อดัง “Genting Malaysia” สร้างความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนพบความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่หลบซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยเช่าคอนโดมิเนียมหรูย่านพระราม 3 และย่านลุมพินี เพื่อเปิดเป็นสำนักงาน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น พบสภาพภายในห้องถูกดัดแปลงเป็นออฟฟิศ มีโต๊ะทำงานพร้อมคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์จำนวนมาก โดยสามารถตรวจยึดของกลางเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ VoIP กว่า 50 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 35 เครื่อง, บทสคริปต์สำหรับหลอกลวงเหยื่อ, เอกสารปลอม และบัตรประจำตัวพนักงานอัยการเกาหลีใต้ปลอม
จากการตรวจสอบพฤติการณ์พบว่ากลุ่มคนร้ายใช้วิธีโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP) ไปยังเหยื่อในประเทศเกาหลีใต้ โดยปลอมตัวเป็นอัยการข่มขู่ว่าเหยื่อมีคดีติดตัว หรือปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกให้กู้เงินและโอนค่าดำเนินการ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง และ สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 68)





