
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะทูตตานุทูต สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เพื่อให้เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไทยไม่ได้เป็นผู้ก่อ และมีความจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย และทำทุกทางที่จะยุติภัยคุกคามจากกัมพูชา และพยายามให้เห็นว่าวิธีการของกัมพูชาตลอดมา คือ ปฏิเสธ เบี่ยงเบน พยายามสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาโดยไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์ปัจจุบัน ทุ่นระเบิด รวมทั้งเรื่องก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ คิดว่าประชาคมโลกคงได้เห็นแล้วว่า วิธีการของกัมพูชา โดยเฉพาะที่ตนไปประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาที่เจนีวา เกี่ยวกับการห้ามใช้ทุ่นระเบิด ไทยนำหลักฐานไปแสดง รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุด ที่มีทหารไทยทั้งเสียชีวิตและรับบาดเจ็บ ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งไม่ใช่หลักฐานของไทยเพียงฝ่ายเดียว มีการยืนยันจากคณะผู้สังเกตการณ์จากอาเซียนด้วย เมื่อเรานำคลิปไปแสดง กัมพูชาคงเดือดร้อน เพราะสิ่งที่ฝ่ายไทยพูด มีหลักฐาน
“ผมคิดว่าที่เราชี้แจงก็มาถูกทาง เพราะเหตุการณ์นี้ ต้องให้ประชาคมโลกเข้าใจ เพราะบางครั้งสิ่งที่เขาต้องการสร้างสถานการณ์ สร้างภาพว่าเป็นฝ่ายถูกรุกราน เป็นเหยื่อจากประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่กว่า ความจริงไม่ใช่ เพราะประเทศเล็กก็สามารถยั่วยุ รุกรานได้ จากเหตุการณ์ต่าง ๆเพื่อประโยชน์ของเขา” นายสีหศักดิ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า เมื่อได้สื่อสารให้ประชาคมโลกรับทราบแล้ว อีกส่วนหนึ่งคือฝ่ายไทยต้องทำหนังสือออกไป เชื่อว่าต่างชาติน่าจะเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายก่อ แต่ถึงอย่างไรต่างชาติคงอยากให้ไทยกับกัมพูชาพูดคุยกัน แต่สำหรับประเทศไทย ประตูเจรจายังไม่พร้อม เพราะไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้น กัมพูชาจะต้องเป็นฝ่ายรู้สึกว่าอยากเป็นฝ่ายเจรจา
รมว.ต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า การที่สหประชาชาติ เรียกร้องให้ 2 ประเทศเจรจากันให้ชัดเจนนั้น จึงอยากถามว่าจะเจรจาเรื่องอะไร ถ้ากัมพูชายังไม่พร้อมที่จะเจรจา ก็จะกลับไปสู่เรื่องเดิมอีก
“คือตกลงกันแล้ว ก็ไม่ปฏิบัติตามที่ตกลง ดังนั้น ก็ขอให้ฝ่ายกัมพูชาพร้อมจริง ๆ ขณะนี้ เราก็ต้องดำเนินการทางการทหารไปก่อน จนถึงจุดที่เขาพร้อมจริง ๆ” นายสีหศักดิ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 68)





