
นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บมจ.เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป [NTF] เปิดเผยว่า NTF ได้เปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 6 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และ 8-9 ธันวาคม 2568 ได้รับการตอบรับที่ดีมียอดจองซื้อหุ้น IPO ครบทั้งหมด ด้วยความน่าสนใจของผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง อัตราทำกำไรโดดเด่น และมีแผนการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต อีกทั้งราคาหุ้นที่เสนอขายมีส่วนลดให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ NTF เป็นผู้ส่งออกผลไม้ไทยเกรดพรีเมียม โดยเฉพาะทุเรียนที่เป็นผลไม้ยอดนิยมและมีมูลค่าสูงในตลาดที่มีศักยภาพอย่างประเทศจีนและหลายประเทศ มีอัตราการเติบโตด้านยอดขายอย่างต่อเนื่อง
“การเปิดจองหุ้น NTF ที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากจากนักลงทุน ด้วยความมั่นใจต่อศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน และการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ไว้ที่ 6.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 5.7 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลังนั้น ถือเป็นราคาที่มีส่วนลดสำหรับนักลงทุน ซึ่งช่วยดึงดูดความน่าสนใจนักลงทุนในการซื้อขายขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันแรก และหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป”นางรัชดา กล่าว

นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NTF กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ NTF ในครั้งนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ในนามของ NTF ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้นของ NTF โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ NTF เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงใช้พัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้มีความแม่นยำ ลดความสูญเสีย และเงินบางส่วนจะนำไปชำระคืนสถาบันการเงิน ซึ่ง NTF จะดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ ควบคู่กับการบริหารจัดการที่โปร่งใส พร้อมสร้างโอกาสเติบโตตามความสามารถของธุรกิจ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
“NTF เป็นผู้ส่งออกผลไม้สดไปยังต่างประเทศ ไม่ได้ดำเนินธุรกิจล้ง แต่ดำเนินงานร่วมกับ ล้งพันธมิตร หรือโรงคัดบรรจุ เพื่อจัดหาผลผลิตจากสวน พร้อมควบคุมคุณภาพในสวนและโรงคัดบรรจุตามมาตรฐาน 2Q2T ที่ NTF กำหนด ตลอดจนการจัดการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทำให้สินค้าที่ส่งมอบเป็นผลไม้คุณภาพสูง เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของลูกค้า ส่งผลให้มียอดขายเติบโตตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง”นายวิชัย กล่าว
สินค้าของ NTF กว่า 95% ที่ส่งออกเป็นทุเรียนสด รองลงมา ได้แก่ มะพร้าว ลำไย ผลไม้อื่นๆ ทุเรียนแกะเนื้อ และทุเรียนแช่แข็ง โดยส่งไปจำหน่ายให้กับผู้ค้าส่งผลไม้ในประเทศจีน โดยเฉพาะตลาดผลไม้ขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับต้นๆ และมีความต้องการบริโภคผลไม้ไทยในระดับสูงต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นตลาดเจียซิง (Jiaxing Market) ตลาดเจียงหนาน (Jiangnan Fruit Market) และตลาดเจิ้งโจว (Zhengzhou)
สำหรับสินค้าของ NTF จะอยู่ภายใต้แบรนด์ของ NTF ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการตลาดให้สอดคล้องในการจำหน่ายในต่างประเทศ ได้แก่ เหม่ย ลี่ (Mei Li), ไท่ ถิง ห่าว (Tai Ting Hao), โมมันไท่ (Mo Man Tai) และ มินิ (Mini) รวมถึงแบรนด์ที่พัฒนาร่วมกับลูกค้า ได้แก่ ไท่ จี๋ (Tai Ji) และ จิน เยี่ยน (Jin Yan) และแบรนด์ลูกค้าที่เป็นแบรนด์ระดับโลก ได้แก่ โดล (Dole)
ผลดำเนินงานในปี 68 NTF มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าตามความต้องการผลไม้ไทยที่เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 2,900 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนปี 68 มียอดขาย 2,107 ล้านบาท กำไรสุทธิ 203 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.6% ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมและกำไรสุทธิทั้งปีในช่วง 65-67
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 68)





