
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงในวันพุธที่ 10 ธ.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ โดยระบุว่า ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ในขณะนี้บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลาง ขณะที่การจ้างงานชะลอตัวลงในปีนี้ และอัตราว่างงานปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจนถึงเดือนก.ย. โดยตัวชี้วัดที่เฟดได้รับเข้ามามากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ก็มีความสอดคล้องกับการพัฒนาเหล่านี้เช่นกัน ส่วนอัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นปีและยังคงอยู่ในระดับสูง
คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ส่วนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูง และคณะกรรมการยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงที่จะมีต่อ Dual Mandate ของเฟด คือการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ขณะเดียวกันคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าความเสี่ยงที่ตลาดแรงงานจะอยู่ในช่วงขาลงนั้น มีมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการฯ ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ส่วนในการพิจารณาเรื่องขนาดและเวลาของการปรับช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมนั้น คณะกรรมการจะใช้ความระมัดระวังในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า รวมทั้งแนวโน้มของพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสมดุลของความเสี่ยง โดยคณะกรรมการมีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะสนับสนุนการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ส่วนในการประเมินแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการเงินนั้น คณะกรรมการฯ จะยังคงจับตาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ จะเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เฟดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของคณะกรรมการฯ โดยคณะกรรมการฯ จะประเมินข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมถึงการพิจารณาสถานการณ์ทางการเงิน และสถานการณ์ในต่างประเทศ
คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า งบดุลสำรองได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับที่เพียงพอแล้ว และจะเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนสั้นขึ้นตามความจำเป็น เพื่อรักษาระดับอุปทานของงบดุลสำรองให้มีเพียงพออย่างต่อเนื่อง
สำหรับกรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียมส์ รองประธานเฟด,ไมเคิล เอส บาร์, มิเชล ดับเบิลยู โบว์แมน, ซูซาน เอ็ม คอลลินส์, ลิซา ดี คุก, ฟิลิป เอ็น เจฟเฟอร์สัน, อัลเบอร์โต จี มูซาเลม และคริสโตเฟอร์ เจ วอลเลอร์
ส่วนกรรมการที่คัดค้านการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ได้แก่ สตีเฟน ไอ มิแรน ซึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ออสติน ดี กูลส์บี และ เจฟฟรีย์ อาร์ ชมิด สนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมครั้งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 68)





