
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาแสดงความเห็นกลางศึกชิงกิจการยักษ์ใหญ่ในวงการสื่ออย่าง วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros Discovery) โดยระบุว่าควรขายสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ออกไป ไม่ว่าจะขายรวมไปในดีลซื้อขายบริษัทแม่ หรือจะแยกขายต่างหากก็ตาม
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.) ว่า “CNN ควรถูกขายทิ้งซะ”
ผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ CNN มาตลอด โดยมักวิจารณ์ว่าเลือกข้างและตราหน้าว่าเป็น “สื่อเฟกนิวส์” ทรัมป์เคยระบุว่า CNN เป็น “สื่อที่แย่ที่สุดรายหนึ่งในวงการ” ทั้งยังเย้ยหยันเรื่องเรตติ้งว่า “ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนไม่ต้องนับ หรือไม่มีความสำคัญอีกต่อไป”
ความเห็นของทรัมป์เกิดขึ้นในช่วงที่วอร์เนอร์ฯ กำลังเนื้อหอม โดยได้รับข้อเสนอซื้อกิจการที่มีเงื่อนไขต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากสองยักษ์ใหญ่ คือเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) และพาราเมาท์ สกายแดนซ์ (Paramount Skydance)
ทางด้านเน็ตฟลิกซ์ยื่นข้อเสนอครอบคลุมสินทรัพย์บันเทิงรวมถึง HBO แต่ไม่เอา CNN และช่องเคเบิลทีวีอื่น ๆ (เช่น TNT, TBS) ซึ่งหากดีลนี้สำเร็จ คาดว่าวอร์เนอร์ฯ จะต้องแยกธุรกิจกลุ่มข่าวและเคเบิลนี้ตั้งเป็นบริษัทอิสระก่อนการควบรวม โดยวอร์เนอร์ฯ ได้ตอบรับข้อเสนอนี้ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน
ส่วนพาราเมาท์เลือกเปิดฉากยื่นซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Hostile bid) สวนกลับเมื่อวันจันทร์ (8 ธ.ค.) ด้วยข้อเสนอเงินสด 30 ดอลลาร์ต่อหุ้นเพื่อซื้อวอร์เนอร์ฯ “ทั้งเครือ” โดยเดวิด เอลลิสัน ซีอีโอของพาราเมาท์ยืนยันว่า เตรียมเงินทุนไว้พร้อมแล้ว และแผนของเขาคือการนำ CNN ไปรวมกับสำนักข่าว CBS ซึ่งจะผ่านด่านหน่วยงานกำกับดูแลได้ง่ายกว่า
ดีลนี้ถูกจับตามองอย่างหนักเนื่องจาก เดวิด เอลลิสัน เป็นลูกชายของแลร์รี เอลลิสัน มหาเศรษฐีผู้เป็นพันธมิตรของทรัมป์ นอกจากนี้ ตลาดวอลล์สตรีทยังกังวลถึงบทบาทของ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยทรัมป์ ในเรื่องการจัดหาเงินทุน และเกรงว่าอิทธิพลของปธน.ทรัมป์อาจทำให้ดีลนี้เอียงไปเข้าข้างพาราเมาท์
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ปฏิเสธกับนักข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาไม่ได้คุยกับคุชเนอร์เรื่องวอร์เนอร์ฯ พร้อมเสริมว่าทั้งเน็ตฟลิกซ์และพาราเมาท์ “ไม่ใช่เพื่อนผม”
ในส่วนของความคืบหน้าล่าสุด ที่ปรึกษากฎหมายของวอร์เนอร์ฯ ได้แจ้งไปยังพาราเมาท์ว่า บอร์ดบริหารยังมองจุดอ่อนเรื่องที่ตระกูลเอลลิสันไม่ค้ำประกันเงินทุน (Backstop) แบบเต็มจำนวน ว่าเป็นข้อเสีย แม้จะมีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเข้ามาร่วมทุนด้วยก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 68)





