IMF แนะจีนกระตุ้นการบริโภคในปท. เตือนพึ่งพาการส่งออกมากไปเสี่ยงกระทบการค้าโลก

คริสตาลินา จอร์เจียวา

คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องเร่งสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ และลดการพึ่งพาการส่งออกเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กอร์เกียวาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) ว่า การที่จีนมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น บ่งชี้ว่าจีนมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งจากการส่งออกได้ และเตือนว่าหากจีนยังคงพึ่งพาการส่งออกเช่นนี้ต่อไป ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์การค้าทั่วโลกมีความตึงเครียดมากขึ้น

ทั้งนี้ กอร์เกียวาแนะนำว่า จีนต้องเร่งผลักดันแผนการที่จีนเองได้กำหนดไว้เป็นเวลานานหลายทศวรรษ เพื่อเปลี่ยนจากการพึ่งพาการส่งออกเพื่อการเติบโต และเสริมว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อจีน และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโลกด้วย นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงแนวทางดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศอื่น ๆ ใช้มาตรการเพื่อควบคุมการส่งออกของจีน

การแสดงความเห็นของกอร์เกียวา มีขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ยุโรปและประเทศต่าง ๆ เช่น เม็กซิโก ต่างก็มีความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับปริมาณรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ที่นำเข้าจากจีน โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพ.ย.ปีนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 1.076 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ กอร์เกียวากล่าวว่า IMF ประเมินว่าจีนควรต้องมีการใช้จ่ายราว 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อแก้ไขภาวะตกต่ำในภาคอสังหาริมทรัพย์

IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2569 เป็น 4.5% เพื่อพิจารณาจากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการที่ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่ต่ำกว่าคาด ขณะเดียวกันก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2568 สู่ระดับ 5%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 68)