เงินบาทเปิด 31.63 แนวโน้มแข็งค่า จับตาความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังยุบสภา

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 31.63 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 31.77 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาท ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังตลาดยังคงมั่นใจว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้ง ในปี 2026 อีกทั้ง เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยังอยู่ในแนวโน้มการแข็งค่าขึ้น และมีโอกาสที่จะแข็งค่ามากกว่าระดับ สิ้นปีแถว 31.85+/-0.25 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของการเมืองไทย หลังนายกฯ ได้ประกาศยุบสภา แม้จะเผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน อย่าง สถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยังคงร้อนแรง อาจเป็นปัจจัยที่ชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้ หากตลาดเลือกที่จะทยอยขายทำกำไรสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้น)

นอกจากนี้ ตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงิน

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 31.55-31.80 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 155.85 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1743 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1701 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.729 บาท/ดอลลาร์
– การเมืองไทยร้อนระอุ “นายกฯอนุทิน” ชิงยุบสภาฯ หลังโพสต์ “ผมขอคืนอำนาจกลับไปยังพี่น้องประชาชนครับ” จากปมร้อน หลัง “ภูมิใจไทย” โหวต คงอำนาจ สว. 1 ใน 3 ในการแก้รัฐธรรมนูญ อ้างสั่ง สว. ตัดอำนาจตัวเองไม่ได้ ทำ “เท้ง” เดือด ภูมิใจไทยไม่จริงใจต่อการผลักดัน รธน.ฉบับใหม่ เรียก สส.ลงชื่อ เตรียมยื่นซักฟอกร่วมกับเพื่อไทยในวันที่ 12 ธ.ค.นี้
– “รมว.พาณิชย์” เผย ไทยย้ำจุดยืนชัดสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาไม่ควรเชื่อมโยงกับการเจรจาภาษีรัฐบาลพร้อมเดินหน้าเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ตามกรอบข้อตกลง
– ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี มาหารือกับหอการค้าถึงการจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศกัมพูชา กลับมายังประเทศไทยหลังจากที่ผ่านมาบางส่วนย้ายฐานการผลิตไปยังกัมพูชา บางส่วนไปตั้งโรงงานที่กัมพูชาจากประเด็นค่าแรงถูก และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งตนก็ได้แนะนำว่า ให้ย้ายกลับมาประเทศไทยดีกว่าเนื่องจากมีจุดแข็งเรื่องซัพพลายเชนชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ต้องมีค่าขนส่ง รวมทั้งเรื่องสิทธิทางภาษีหารือร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ และเร็วๆ นี้ไทยจะเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู ใกล้แล้วเสร็จ
– ททท. ชูงานเคานต์ดาวน์ 2025 แม่เหล็กดูดต่างชาติเที่ยวไทย คาดหวังเป็นแรงส่งปี 69 ปั้นรายได้ 2.79 ล้านล้านบาท
– กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 44,000 ราย สู่ระดับ 236,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 223,000 ราย โดยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอ
– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีหน้า
– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในวันข้างหน้า
– ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากเป็นสองเท่า จากที่ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.)
– นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2569 แม้รายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง
– นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด


โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 68)