
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลง 10.9% ในเดือนก.ย. แตะที่ระดับ 5.28 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 เนื่องจากการส่งออกพุ่งขึ้นอย่างมาก ในขณะที่การนำเข้าขยับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ว่าการค้าอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 3
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าของสหรัฐฯ ลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6.33 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุมาจากยอดส่งออกโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 3% แตะที่ระดับ 2.893 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าพุ่งขึ้น 4.9% แตะที่ 1.876 แสนล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนยอดนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% แตะที่ 3.421 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 0.6% แตะที่ 2.666 แสนล้านดอลลาร์ แต่ยอดนำเข้ายานยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องยนต์ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสินค้าลดลง 8.2% มาอยู่ที่ระดับ 7.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลการค้าดังกล่าวในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลถูกปิดดำเนินการเป็นเวลานานถึง 43 วัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขขาดดุลการค้าผันผวนอย่างมาก และทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศบิดเบือนไป โดยรัฐบาลสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 1 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2568 ในวันที่ 23 ธ.ค. หลังจากที่เลื่อนการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเนื่องจากปัญหาชัตดาวน์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 68)





