ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังเกิดความกังวลเรื่องภาวะฟองสบู่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงหลังจากบวกขึ้นในต้นสัปดาห์นี้จากความคาดหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 578.24 จุด ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.53%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,068.62 จุด ลดลง 17.14 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,186.49 จุด ลดลง 108.12 จุด หรือ -0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,649.03 จุด ลดลง 54.13 จุด หรือ -0.56%
ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรของ Broadcom ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนของกระแสการลงทุนใน AI และการใช้จ่ายในภาคเทคโนโลยี หลังจาก Oracle ประกาศคาดการณ์รายได้ที่น่าผิดหวังเมื่อวันพุธ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความต้องการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีลดลงอย่างชัดเจน
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในยุโรป เช่น ASML และ Schneider Electric ร่วงลง 5% และ 4.2% ตามลำดับ
ดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงอย่างหนักมากกว่า 2%
ดัชนีหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานในยุโรปร่วงลง 1.3% หลังราคาทองแดงดิ่งลงมากกว่า 3%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงประมาณ 1.3% หลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 4 วัน แต่ยังปรับตัวขึ้น 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้
หุ้น UBS พุ่งขึ้น 2.5% แตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี หลังสภานิติบัญญัติสวิตเซอร์แลนด์เสนอแนวทางประนีประนอมเรื่องกฎเกณฑ์ด้านเงินทุนเพื่อให้ธนาคารแข่งขันในระดับสากลได้
หุ้นกลุ่มประกันพุ่งขึ้น 2.2% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการพุ่ง 2.5% ในสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 1.3% ในวันศุกร์ โดยหุ้น Lufthansa พุ่งขึ้น 4.7% หลัง Kepler Chevroux ปรับคำแนะนำลงทุนเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ”
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง 3.2% โดยเป็นกลุ่มที่ปรับตัวแย่ที่สุดในสัปดาห์นี้ หุ้นบางส่วนถูกกดดันจากการประกาศเปิดตัวแว่นตา AI ของ Google ส่งผลให้หุ้น EssilorLuxottica ผู้ผลิตแว่นตา Ray-Ban ร่วงลง
หุ้นค้าปลีก อาทิ Adidas และ Puma พุ่งขึ้น 2% และ 2.5% หลังบริษัท Lululemon Athletica ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรประจำปี
ในสัปดาห์หน้า ตลาดจับตาการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในปีนี้ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังอิซาเบล ชนาเบล ผู้กำหนดนโยบายแสดงความคิดเห็นเชิงคุมเข้มนโยบายการเงินเมื่อวันจันทร์ ซึ่งอาจเปิดทางไปสู่การปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งต่อไป และจะสวนทางกับแนวทางของเฟด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 68)
