คมนาคมจัดเส้นทางสัญจรรองรับสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดฯ บูรณาการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน การอพยพกลุ่มเปราะบาง และการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมในพื้นที่ศูนย์พักพิง

สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายจังหวัดชายแดน กระทรวงฯ จึงได้เร่งสนับสนุนภารกิจของจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุด

– จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดเหตุปะทะในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด บริเวณช่องสายตะกู ส่งผลให้มีการสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อำเภอบ้านกรวดและอำเภอละหานทราย พร้อมงดใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 224 (บ้านกรวด-ละหานทราย-พนมดงรัก) เพื่อความปลอดภัย ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ได้สนับสนุนรถจำนวน 10 คันในการอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบางไปยังสถานพยาบาลและศูนย์พักพิง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในศูนย์พักพิงชั่วคราว และงดการเดินรถในพื้นที่เสี่ยงตามข้อสั่งการของจังหวัด

– จังหวัดสุรินทร์ ยังคงมีสถานการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่ชายแดน ส่งผลให้มีผู้อพยพเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 80,000 คน ใน 145 แห่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ได้จัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะลงพื้นที่ดูแลศูนย์พักพิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนภารกิจของจังหวัดและกรมการขนส่งทางบก โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการดูแลความปลอดภัยและสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

– จังหวัดตราด กรมทางหลวงรายงานเหตุลูกกระสุนตกบนทางหลวงหมายเลข 3 ตอนแม่น้ำตราด-หาดเล็ก ส่งผลให้ต้องปิดเส้นทางบางช่วงเป็นการชั่วคราว หน่วยงานด้านความมั่นคงได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่ตัวเมืองตราด เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน แขวงทางหลวงตราดได้ดำเนินการอพยพหมวดทางหลวงในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ หมวดทางหลวงแหลมกลัด ช้างทูน และด่านชุมพล มาปฏิบัติงานในพื้นที่ปลอดภัย ตามแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินของหน่วยงาน

ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานความคืบหน้าแบบต่อเนื่อง ปรับแผนการเดินรถและการใช้เส้นทางให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง พร้อมสนับสนุนการอพยพประชาชนและการดำเนินงานของศูนย์พักพิงในทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และยังคงบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ และยืนหยัดอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 68)