
รัฐบาลนิวซีแลนด์เปิดเผยรายงานประมาณการทางการเงินฉบับใหม่ในวันนี้ (16 ธ.ค.) โดยระบุว่านิวซีแลนด์จะยังไม่สามารถกลับมาทำงบประมาณเกินดุลได้ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมวินัยทางการคลังอย่างเข้มงวด
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์หดตัวลงถึง 3 ใน 5 ไตรมาสล่าสุด โดยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลงจากการบริโภคที่ซบเซา รวมทั้งความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงมีความหวังว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นตัว โดยกระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 จะขยายตัวที่ 0.9% และการเติบโตทางเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วง 18 เดือนข้างหน้า
นิโคลา วิลลิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์กล่าวในระหว่างการแถลงรายงานสถานะเศรษฐกิจและการคลังรอบครึ่งปีที่กรุงเวลลิงตันว่า เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัวและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังคงยึดมั่นในแนวทางการใช้จ่ายอย่างมีวินัยยิ่งยวด
ทั้งนี้ วิลลิสกล่าวเสริมว่า สาธารณสุข การศึกษา การป้องกันประเทศ และการรักษาความสงบเรียบร้อย จะเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดสำหรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายใหม่ในเดือนพ.ค. ปีหน้า
สำหรับตัวเลขคาดการณ์งบประมาณนั้น รัฐบาลคาดว่าจะขาดดุลงบประมาณ 1.693 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (9.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งเป็นการขาดดุลที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนพ.ค. ที่ระดับ 1.56 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์
นอกจากนี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะไม่สามารถกลับมาทำงบประมาณเกินดุลได้ภายในกรอบเวลา 5 ปีข้างหน้า หากนับรวมต้นทุนของโครงการประกันอุบัติเหตุทั่วประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะขาดดุล 60 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2573
ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค คาดว่า GDP จะขยายตัว 1.7% ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2569 ซึ่งปรับตัวลดลงจากประมาณการเดิมเมื่อเดือนพ.ค. ที่ระดับ 2.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.4% ในปีงบประมาณถัดไป
สำหรับช่วงปี 2568/2569 คาดการณ์อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.4% ซึ่งสูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.1%
ทางด้านหนี้สาธารณะสุทธิ (ไม่รวมเงินทดรองจ่าย) คาดว่าจะพุ่งขึ้นสูงสุดที่ระดับ 46.9% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2570/2571 ซึ่งสูงกว่าประมาณการเมื่อเดือนพ.ค. ที่รัฐบาลคาดว่าจะสูงสุดที่ 46.0% ของ GDP ในช่วงเวลาเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 68)





