
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม [KLINIQ] กล่าวว่า KLINIQ ตอกย้ำกลยุทธ์การขยายฐานบริการสู่ตลาดเฉพาะทาง (Niche Market) ที่มีอัตราการเติบโตสูง เปิดตัว THE KLINIQUE HAIR CENTER ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้า Siam Square One ศูนย์กลางธุรกิจและแฟชั่นของกรุงเทพฯ โดยวางศูนย์ปลูกผมเป็นหนึ่งในเสาหลักของการเติบโตระยะยาวตลาดปลูกผมเติบโตต่อเนื่องในประเทศไทย และประเมินว่าโอกาสทางการตลาดสูงสำหรับบริการทางการแพทย์เฉพาะทาง โดยปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วย
ตลาดปลูกผมเติบโตแรง: ไทยพร้อมก้าวเป็นผู้นำ Medical Wellness ของภูมิภาค ซึ่งตลาด Hair Restoration ทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2023) และคาดว่าจะขยายตัว 8-16% ต่อปี จนถึงปี 2030 โดย เอเชียแปซิฟิก เป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดกว่า 23% ต่อปี จากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองการรักษาเส้นผมเป็น “การลงทุนด้านภาพลักษณ์ระยะยาว” โดยในประเทศไทย ตลาดมีมูลค่าราว 3,200 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 12–16% ต่อปี ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของ KLINIQ ในการเข้าสู่ธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญและผลลัพธ์ความน่าเชื่อถือเป็นตัวขับเคลื่อน
เทคโนโลยีและเทคนิคการรักษา…ยกระดับมาตรฐานการปลูกผมของไทยสู่ระดับสากล THE KLINIQUE HAIR CENTER นำเทคโนโลยี AI HAIR SCAN มาใช้ในการประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ลดความคลาดเคลื่อน และช่วยแพทย์วางแผนการรักษาแบบ Personalized นอกจากนี้ ศูนย์ยังโดดเด่นด้วยเทคนิคปลูกผมล้ำสมัย เช่น Gramax Long Hair FUE และ Trivellini Tech Long Hair FUE ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวไวและไม่ต้องโกนผมก่อนปลูก ในด้านความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ THE KLINIQUE HAIR CENTER ได้รับความไว้วางใจจากทั้งลูกค้าพรีเมียม ดารา และบุคคลสาธารณะ โดยหนึ่งในเคสสำคัญคือ “อุ้ม ลัขณา” ที่เลือกเข้ารับการปลูกผมด้วยเทคนิค Long Hair FUE ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานและความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ได้เป็นอย่างดี
นายวีระศักดิ์ สินทรัพย์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลเดอะคลีนิกค์ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจสุขภาพจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้ ไม่ใช่เพียงการขยายสาขา ความเชื่อมั่นต้องเกิดจากคุณภาพของบุคลากรและความเชี่ยวชาญที่เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนได้ KLINIQ จึงเลือกใช้กลยุทธ์ Flagship-First โดยพัฒนาศูนย์ต้นแบบที่ Siam Square One ก่อนขยายไปยังทำเลศักยภาพอื่น ซึ่งช่วยควบคุมมาตรฐานบริการ ลดความเสี่ยงด้านต้นทุน และสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนกว่าในระยะยาว
Competitive Moat ที่เทคโนโลยีไม่สามารถแทนที่ได้ การมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เปรียบเหมือนการมี “กำแพงการแข่งขัน” ที่แข็งแรง (Competitive Moat) ในตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาสูง ความสามารถเฉพาะทางของแพทย์และผลลัพธ์เชิงคุณภาพ คือ สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้ THE KLINIQUE HAIR CENTER ได้เหนือคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งด้านรายได้เฉลี่ยต่อเคสและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สู่บทบาทผู้ให้บริการ Medical Wellness ที่เชื่อมโยงความงามกับคุณภาพชีวิต
“KLINIQ มองว่าการเข้าสู่ธุรกิจปลูกผมไม่ใช่เพียงการเพิ่มไลน์บริการ แต่เป็นการสร้างจุดยืนใหม่ของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการ สุขภาพความงามที่เน้นผลลัพธ์เป็นตัวตั้ง โดยผสาน เทคโนโลยี การแพทย์ ข้อมูล และมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม Medical Wellness ของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาค”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 68)




