
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) เพื่อผ่อนคลายกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกัญชาในระดับรัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายเข้มงวดที่ดำเนินมาหลายสิบปี
คำสั่งดังกล่าวสั่งการให้รัฐมนตรียุติธรรมเร่งเดินหน้ากระบวนการปรับสถานะทางกฎหมายของกัญชา โดยกัญชาจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารควบคุมที่มีความอันตรายน้อยลง เทียบเคียงกับยาแก้ปวดทั่วไป เคตามีน (ยาเค) และเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย)
การปรับสถานะของกัญชาครั้งนี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายกัญชาของรัฐบาลกลางที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ และอาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมกัญชา เปิดทางให้เงินทุนวิจัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และเข้าถึงสถาบันการเงินและนักลงทุนที่เคยถูกจำกัด
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ย้ำว่า กัญชายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง และจะยังอยู่ภายใต้ข้อบังคับที่แตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบางส่วนเห็นว่า ยังจำเป็นต้องมีการออกกฎหมายผ่านสภาคองเกรส เพื่อสร้างกรอบกำกับดูแลที่มั่นคงมากขึ้น
ทรัมป์แถลงต่อสื่อมวลชนว่า มีประชาชนจำนวนมากเรียกร้องให้เขาดำเนินการดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเผชิญกับอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงมาเป็นเวลานาน พร้อมทั้งเตือนว่า กัญชายังคงมีความเสี่ยง และยืนยันว่าเขาไม่มีความสนใจที่จะทดลองใช้
ด้านชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต แสดงท่าทีสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ ขณะที่บรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรครีพับลิกันจำนวนหลายสิบคนออกมาคัดค้าน โดยสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ส่งจดหมายถึงทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดี เรียกร้องไม่ให้เขาลงนามคำสั่งดังกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันเตือนว่า การปรับสถานะกัญชาเป็นสารควบคุมระดับต่ำลงอาจส่งสัญญาณที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชน เปิดช่องให้เครือข่ายค้ายาเสพติด และเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)





