คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ (19 ธ.ค.) โดยที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
ขณะเดียวกันที่ประชุม BOJ ยังส่งสัญญาณความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการยุติการดำเนินนโยบายสนับสนุนทางการเงินขนานใหญ่และสิ้นสุดการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ที่ดำเนินการมานานหลายสิบปี
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวันนี้ อุเอดะส่งสัญญาณเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ พร้อมกับกล่าวว่า แม้ BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี แต่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (real interest rates) ยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ อุเอดะกล่าวว่า การปรับนโยบายการเงินจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับในการประชุมแต่ละครั้ง
“สำหรับความเร็วในการปรับระดับการสนับสนุนทางการเงินของเรานั้น จะขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการเงินในขณะนั้น เราจะอัปเดตมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ รวมถึงความเสี่ยงและความเป็นไปได้ในการบรรลุเป้าหมายตามที่คาดการณ์ไว้ในการประชุมแต่ละครั้ง และจะตัดสินใจอย่างเหมาะสม” อุเอดะกล่าว
อุเอดะกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางยังมีความไม่แน่นอน โดยนโยบายอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ
“การประมาณการของเราเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางของญี่ปุ่นนั้นอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างกว้าง เป็นเรื่องยากที่จะระบุตัวเลขที่แน่ชัด … เราต้องการประเมินว่าเศรษฐกิจและเงินเฟ้อจะตอบสนองอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในแต่ละครั้ง”
ส่วนการสนับสนุนทางการเงินนั้น อุเอดะกล่าวว่า BOJ จะพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงและการปล่อยสินเชื่อ
“ในการพิจารณาระดับของการสนับสนุนทางการเงิน เราจะไม่พิจารณาแค่ระยะห่างจากอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ตลอดจนการปล่อยสินเชื่อ และพัฒนาการทางเศรษฐกิจด้วย” เขากล่าว
อุเอดะยังกล่าวด้วยว่า อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าระดับที่เป็นกลาง และ BOJ จะติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพื่อกำหนดทิศทางนโยบาย
“ในการตัดสินใจว่าระดับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางควรอยู่ที่ใด เราจำเป็นต้องดูว่าเศรษฐกิจและเงินเฟ้อตอบสนองต่อการปรับนโยบายแต่ละครั้งอย่างไร” อุเอดะกล่าว
นอกจากนี้ อุเอดะกล่าวว่า เจ้าหน้าที่บางคนของ BOJ เตือนว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงอาจผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
“ในการประชุมวันนี้ มีสมาชิกคณะกรรมการ BOJ บางคนกล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อไม่นานมานี้ อาจทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)
