
รัฐบาลนิวซีแลนด์และอินเดียประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างเป็นทางการในวันนี้ (22 ธ.ค.) ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ส่งออกนิวซีแลนด์เข้าถึงตลาดที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอย่างอินเดีย
ตามข้อตกลงนี้ อินเดียจะยกเลิกหรือลดภาษีศุลกากรสินค้าส่งออกจากนิวซีแลนด์ถึง 95% ของมูลค่าการค้า โดยสินค้าเกินครึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีทันทีตั้งแต่วันแรกที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการนิวซีแลนด์เจาะกลุ่มชนชั้นกลางในอินเดียที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
นอกจากความร่วมมือด้านการค้า นิวซีแลนด์จะให้โควตาวีซ่าทำงานชั่วคราวปีละ 1,667 อัตรา แก่บุคลากรในสาขาที่ขาดแคลน เช่น แพทย์ พยาบาล ครู ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และวิศวกร พร้อมให้โควตาวีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน (Working Holiday Visa) อีกปีละ 1,000 ที่นั่ง
คริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้ให้ผลประโยชน์ที่กว้างขวางและสำคัญยิ่ง … อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดและเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยสร้างงานให้ชาวนิวซีแลนด์ เพิ่มยอดการส่งออก และกระตุ้นการเติบโต”
ขณะเดียวกัน ทอดด์ แมคเคลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า ระบุว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้นิวซีแลนด์มีความสามารถในการแข่งขันเท่าเทียมหรือดีกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ค้าขายกับอินเดีย ทั้งยังจะช่วยสร้างงานนับพันตำแหน่งและเพิ่มรายได้จากการส่งออกมหาศาล
แม้ข้อตกลงนี้จะเป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่พรรคเนชันแนลเคยหาเสียงไว้ในปี 2565 แต่การผลักดันให้ผ่านสภาอาจไม่ง่ายนัก เนื่องจากวินสตัน ปีเตอร์ส ผู้นำพรรคนิวซีแลนด์เฟิร์สต์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันจะลงคะแนนคัดค้าน โดยมองว่านิวซีแลนด์ยอมอ่อนข้อเรื่องสิทธิการย้ายถิ่นฐานมากเกินไป แต่กลับได้ประโยชน์ตอบแทนไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์นม
ทั้งสองประเทศคาดว่าจะลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการช่วงครึ่งแรกของปี 2569 โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศอยู่ที่ 3.14 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ สินค้าหลักจากอินเดียคือเวชภัณฑ์ ส่วนนิวซีแลนด์ส่งออกสินค้าเกษตรและป่าไม้ เช่น ไม้ซุง ขนสัตว์ และแอปเปิล เป็นหลัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 68)





