ออสซี่คุมเข้มความปลอดภัยทั่วซิดนีย์ช่วงปีใหม่ หลังเหตุกราดยิงหาดบอนได

คริส มินน์ส มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยในวันนี้ (28 ธ.ค.) ว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์เตรียมยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยทั่วนครซิดนีย์ในช่วงปีใหม่ หลังเกิดเหตุกราดยิงที่หาดบอนไดสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้

มินน์สกล่าวว่า ประชาชนอาจเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถืออาวุธปืนยาวมากขึ้นตั้งแต่วันส่งท้ายปีเก่าเป็นต้นไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ มินน์สเปิดเผยว่า รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์กำลังพิจารณามาตรการหลากหลายรูปแบบ รวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งกำลังทหารลงพื้นที่ พร้อมกับยืนยันว่าการหารือเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมยังคงดำเนินอยู่

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุกราดยิงที่หาดบอนไดในนครซิดนีย์เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ขณะที่ชุมชนชาวยิวมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ โดยผู้ก่อเหตุเป็นสองพ่อลูกที่มีแรงจูงใจมาจากอุดมการณ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ซึ่งผู้เป็นพ่ออายุ 50 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชายวัย 24 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย (รวมผู้ก่อเหตุ) และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 ราย

หลังเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ผ่านกฎหมายควบคุมอาวุธปืนและมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายที่เข้มงวดขึ้นในวันที่ 24 ธ.ค. โดยมุ่งจำกัดการครอบครองอาวุธปืน ห้ามแสดงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในที่สาธารณะ และเพิ่มอำนาจตำรวจในการควบคุมการประท้วง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 68)