
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนพ.ย. 68 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะ กทม. และปริมณฑล ภาคกลาง และภาคเหนือ ขณะที่การท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ในภาคเหนือ

* ภาคเหนือ
มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ 6.0% และ 0.6% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ -22.3% และ -16.6% ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ 0.6% และ 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.5
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -54.5% และ -67.5% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ 208.7% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตแอสฟัลท์ติกคอนกรีตในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 88.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 85.1 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ขยายตัวที่ 4.2% และ 5.0% ต่อปี ตามลำดับ
*กทม. และปริมณฑล
มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 7.5% และ 16.3% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ -6.4% และ -24.1% ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 52.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.7
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -31.0% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 30.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ หดตัวที่ -30.1% ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ 36.9% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานฆ่าและชำแหละชิ้นส่วนไก่ ในจังหวัดนครปฐม เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 98.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน ขยายตัวที่ 0.2% ต่อปี อย่างไรก็ตาม รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -2.7% ต่อปี
*ภาคกลาง
มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวที่ 7.1% ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกร หดตัวที่ -15.4% -9.4% และ -17.6% ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 52.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.0
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ หดตัวที่ -41.1% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 3.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ หดตัวที่ -74.8% ต่อปี และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 98.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -1.1% และ -0.7% ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ 5.9% และ 0.6% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรหดตัวที่ -9.8% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 11.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -14.9% ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.8
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -51.7% และ -66.1% ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ 223.8% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 67.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 68.7 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน หดตัวที่ -1.2% และ -1.9% ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคตะวันออก
มีปัจจัยสนับสนุนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวที่ 15.0% ต่อปี อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกร หดตัวที่ -8.9% -0.1% และ -8.2% ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.2
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -22.9% ต่อปี แต่ขยายตัวที่ 7.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ หดตัวที่ -69.7% ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ ขยายตัวที่ 81.7% ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในจังหวัดปราจีนบุรี เป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 91.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.2 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -4.8% และ -5.6% ต่อปี ตามลำดับ
*ภาคตะวันตก
การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนหดตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ -9.4% -12.0% -11.2% และ -15.0% ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 52.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.0
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ -36.0% และ -62.3% ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 98.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ 0.7% ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ -0.2% ต่อปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ธ.ค. 68)




