
หุ้นคิอ็อกเซีย โฮลดิงส์ คอร์ป (Kioxia Holdings Corp.) บริษัทผลิตชิปหน่วยความจำของญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นราว 540% แล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ส่งผลให้ Kioxia เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในดัชนี Topix ของญี่ปุ่น และแซงหน้าหุ้นทุกตัวในดัชนี MSCI World ในปีนี้ แสดงให้เห็นว่ากระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงผลักดันตลาดแม้มีความผันผวน
หุ้น Kioxia เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเมื่อเดือนธ.ค. 2567 โดยมีลูกค้ารายใหญ่ เช่น แอปเปิ้ล อิงค์ (Apple Inc.) และไมโครซอฟท์ คอร์ป (Microsoft Corp) หนุนหลัง จนปัจจุบัน Kioxia มีมูลค่าตลาดประมาณ 5.7 ล้านล้านเยน (3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นสะท้อนความต้องการชิปหน่วยความจำที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI โดยชิป NAND flash memory อย่างของ Kioxia เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการฝึก AI และการทำงานของศูนย์ข้อมูล
ในปีนี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งเตือนถึงภาวะขาดแคลนชิปหน่วยความจำ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูง โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาชิปจะปรับขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้น Kioxia มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
นักกลยุทธ์หุ้นญี่ปุ่นจาก Asymmetric Advisors Pte. ระบุว่า ในปี 2569 การลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีจะเน้นไปที่ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ ไม่ว่าจะลงทุนโดยตรงใน Kioxia หรือทางอ้อม ขณะที่ผู้ผลิตเวเฟอร์ชิป เช่น ซัมโค คอร์ป (Sumco Corp.) ก็มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากความต้องการหน่วยความจำที่แข็งแกร่งเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 68)





