แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามตปท.กังวล Bond Yield สูง แต่คาดไม่ลงแรงน้ำมันขึ้นหนุน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคและต่างประเทศ จากความกังวลต่อ Bond Yield สหรัฐที่ปรับตัวขึ้น แต่คาดว่าลงไม่มากจากแรงหนุนในกลุ่มน้ำมันหลังเช้านี้ตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากความกังวลความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,655-1,660 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียและต่างประเทศ จากความกังวลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond Yield) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยต้องรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ม.ค. นี้

แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะไม่มากนัก จากแรงหนุนในกลุ่มน้ำมัน หลังจากที่เช้านี้ตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังสหรัฐสั่งอพยพคณะทูตออกจากยูเครน

โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,655-1,660 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,265.37 จุด ร่วงลง 450.02 จุด (-1.30%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,397.94 จุด ร่วงลง 84.79 จุด (-1.89%) และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,768.92 จุด ร่วงลง 385.10 จุด (-2.72%)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 263.81 จุด หรือ -0.96% , ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 14.33 จุด หรือ -0.41% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 272.12 จุด หรือ -1.09%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ม.ค.) 1,652.73 จุด ลดลง 4.23 จุด, -0.26%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,452.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ม.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 85.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.5%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ม.ค.) อยู่ที่ 5.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.00 อ่อนค่าตามภูมิภาค จับตาประชุมเฟด กังวลขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าคาด

– “รัฐบาล” เร่งแผนรับมือสินค้าแพง “สุพัฒนพงษ์” สั่งทำแพ็คเกจลดค่าครองชีพ เร่งคนละครึ่ง “คลัง” พร้อมศึกษาลดภาษีน้ำมัน ธปท.แนะดูแลเงินเฟ้อไม่ให้กระทบฟื้นเศรษฐกิจ “สภาพัฒน์” เสนอตรึงราคาแก้ระยะสั้น “เฟทโก้” ชี้ยังไม่จำเป็นขึ้นดอกเบี้ยแก้เงินเฟ้อ “ทีดีอาร์ไอ” แนะใช้เงินกู้ตรึงราคา เพิ่มซัพพลายสินค้าเกษตร

– จับตาผู้ประกอบการ ทยอยขึ้นราคาสินค้า ปรับขนาด-ลดปริมาณ หลังเผชิญภาวะต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง ยักษ์ใหญ่เครือสหพัฒน์ ตรึงราคาสินค้าจำเป็นทั้ง มาม่า ยาสีฟัน ผงซักฟอก สบู่ “ไทยเทพรส” ยันไม่ปรับราคาขาย แม้น้ำปลา 2 ยี่ห้อขอกรมการค้าภายในขึ้นราคาแล้ว อิชิตัน-น้ำอัดลมแฟนต้าลดไซส์ ขายราคาเดิม ขนมขบเคี้ยวปรับปริมาณ-ขึ้นราคา ด้าน “สินค้าไอที” ปรับราคาขึ้นก่อนหน้าแล้ว 5-10%

– เก้าอี้ผู้นำประเทศ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ยังยากที่จะล้มได้ แม้จะเกิด “กบฏพลังประชารัฐ” ยกพล 21 ส.ส. ขอมติขับตัวเองออกจากพรรค เพื่อสร้างแรงต่อรองใหม่ แต่กลุ่มสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ มีเวลาให้พลิกเกมอีกหลายทาง

– รฟท.ถกแก้ไขสัญญาร่วมทุน “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” ไม่จบ ขยาย MOU อีก 3 เดือน เปิดโมเดลเลื่อนจ่ายค่างานโยธาจากปีที่ 6 เป็นปีที่ 3 แลก ซี.พี.รับภาระค่าก่อสร้างช่วงทับซ้อนรถไฟไทย-จีน “บางซื่อ-ดอนเมือง” เพิ่ม 9 พันล้าน ส่วนแอร์พอร์ตลิงก์ จ่ายปีละ 10% หากโควิดจบ จ่ายส่วนที่เหลือบวกดอกเบี้ย

– นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้หารือกับกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันทั้งน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังสามารถบริหารจัดการดูแลราคาน้ำมันได้

– ขณะนี้กระทรวงการคลังได้สรุปตัวเลขงบประมาณที่จะใช้สำหรับโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 แล้ว โดยจะเสนอ ครม.อนุมัติวงเงิน 43,500 ล้านบาท สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 27-28 ล้านคน คาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรอบนี้ไม่น้อยกว่า 87,000 ล้านบาท จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ราว 0.24%

– สภาดิจิทัล นักลงทุน สตาร์ตอัพไทย ลิงโลด คิกออฟยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น หรือ Capital Gains Tax สำหรับการลงทุนในสตาร์ตอัพไทย คาดบังคับใช้ภายในไตรมาสแรก มั่นใจสร้างสตาร์ตอัพไทยใหม่ถึง 5,000 รายภายในปีนี้

– กรมควบคุมโรคประเมินโควิด19 เป็นไปตามคาดการณ์ มั่นใจเตียงไอซียูเพียงพอรองรับ แนะประชาชน 10 จังหวัดท่องเที่ยวและจังหวัดที่พบการติดเชื้อสูง “ฉีดวัคซีนเข็ม 4” ขณะกทม. ย้ำร้านกึ่งผับเปิดนั่งกิน-ดริงก์ถึง 5 ทุ่ม ต้องมีใบอนุญาตก่อน 15 ม.ค

หุ้นเด่นวันนี้

– JMART (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท “4 กุมาร J group หนุนแม่ ปี ‘22 J-Venture & JMT เด่นสุด”รายได้ปี ’22 เด่น J Venture จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ J group และ พันธมิตร เตรียม Launch Platform และดึงถูกค้ามาใช้ X-Chain  คาด J-venture Turn around ในปี 21 ส่วนปี 22 ทางสะดวก โตทุก Platform ด้าน JMT-BTS group พร้อม Synergy  Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2021-2022 ที่ 1.22 พัน ลบ. และ 1.95 พัน ลบ. +53%YoY, +60%YoY ตามลำดับ

– GFPT (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16 บาท การฟื้นตัวดูเร็วกว่าคาด โดย 4Q21 คาดสามารถพลิกมีกำไรได้เล็กน้อยจากเดิมที่คาดยังขาดทุน หนุนจากการส่งออกและราคาไก่ในประเทศที่ฟื้นตัว และมีสายการผลิตไก่ปรุงสุกครบ 5 สายอีกครั้งนับตั้งแต่ไฟไหม้ปี 2019 ล่าสุดราคาไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ 39-40 บาทต่อกิโลสูงสุดรอบ 5 ปี ถือเป็นระดับที่ดีแม้จะถูกตรึงราคาขายปลีก เราจึงปรับเพิ่มกำไรปี 2022 ขึ้นเป็น 1.3 พันลบ. +715% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน

– ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.แพลน บี มีเดีย จำกัด ครั้งที่ 1 (PLANB-W1) เริ่มเทรดวันแรก 24 ม.ค. 2565 จำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 155,302,358 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 : 1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิ :หุ้นสามัญใหม่) ราคาการใช้สิทธิ 8.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ  (14 ม.ค. 2565)วันใช้สิทธิครั้งแรก 12 เม.ย. 2565 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 13 ม.ค. 2568

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top