สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้สั่งจำกัดการใช้วัคซีน “แจนเซน” ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน (blood clot) ซึ่งเป็นอาการที่พบไม่บ่อยนัก
“หลังจากที่ทีมวิจัยของ FDA ได้ทำการวิเคราะห์ ประเมินผล และตรวจสอบรายงานการพบผู้ป่วยที่มีอาการลิ่มเลือดอุดตัน คณะกรรมการ FDA จึงพิจารณาว่า มีความเสี่ยงที่ผู้ได้รับวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombosis with thrombocytopenia syndrome – TTS) ซึ่งเป็นอาการที่ไม่พบบ่อย และจะนำไปสู่อาการลิ่มเลือดอุดตันซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการ FDA จึงสั่งจำกัดการใช้วัคซีนดังกล่าวในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป” FDA ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ (5 พ.ค.)
นายปีเตอร์ มาร์คส์ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาและวิจัยด้านชีววิทยาของ FDA กล่าวว่า การตัดสินใจจำกัดการใช้วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันนั้น สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองต่อรายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงของภาวะ TTS โดยที่ผ่านมานั้น FDA ได้จับตาวัคซีนแจนเซนและผลข้างเคียงที่จะเกิดภาวะ TTS มาโดยตลอด
ทั้งนี้ วัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้รับอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2564
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 65)
Tags: FDA, Johnson & Johnson, lifestyle, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหรัฐ, แจนเซน