หุ้นไทยปิดเช้าพุ่ง 14.51 จุด รับแรงหนุน DELTA กำไรดีกว่าคาด-วอลุ่มบางก่อนหยุดยาว

SET ปิดเช้า 1,567.69 จุด เพิ่มขึ้น 14.51 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขายราว 29,711 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้าพุ่งขึ้นรับแรงหนุนหุ้น DELTA ดีดตัวขึ้นหลังกำไรไตรมาส 2/65 ดีกว่าคาดมากดันหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่นขึ้นตามมาด้วย แต่วอลุ่มรวมค่อนข้างน้อย ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบรอผลประชุมเฟด แนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังยืนบวกได้ต่อ ให้แนวรับ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าที่ 1,567.69 จุด เพิ่มขึ้น 14.51 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขายราว 29,711 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้น ทำระดับสูงสุด 1,568.23 จุด และต่ำสุด 1,555.64 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าปรับตัวขึ้นได้ดี โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้น DELTA ที่พุ่งขึ้นมากว่า 20% มีผลต่อ SET ราว 7.4 จุด หลังจากกำไรไตรมาส 2/65 สูงถึง 4,000 ล้านบาท เติบโต 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 158% จากไตรมาสก่อนหน้า สูงกว่าตลาดคาด 60% ถือว่าเซอร์ไพร์พอสมควร เป็นผลจากราคาทองแดงลดลงและยอดขายเติบโตดี ทำให้หุ้นอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ปรับขึ้นมาตามด้วย

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ระหว่างที่นักกลงทุนรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวปรับตัวลงมาแล้วทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อน้อนลงไปด้วย อีกทั้งในครึ่งปีหลังนี้คาดเฟดน่าจะลดท่าทีการเข้มงวดในการดำเนินนโยบายการเงินลงหลังจากเงินเฟ้อผ่านจุดพีคไปแล้ว

แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย นายวทัญ กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวคล้ายกันกับช่วงเช้า และจะยืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อไป โดยมี DELTA เป็นตัวหนุน ให้แนวรับไว้ที่ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,502.13 ล้านบาท ปิดที่ 460.00 บาท เพิ่มขึ้น 92.00 บาท

TLI มูลค่าการซื้อขาย 1,284.39 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,156.31 ล้านบาท ปิดที่ 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 941.87 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

KCE มูลค่าการซื้อขาย 898.76 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top