เงินบาทเปิด 30.20 ต่อดอลล์ แนวโน้มแข็งค่า

  • ทิศทางเงินบาทวันนี้แนวโน้มแข็งแค่า
  • กรอบเคลื่อนไหววันนี้ 30.15-30.25 บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.20 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.20/22 บาท/ดอลลาร์

“เงินบาทค่อนข้างทรงตัว ขณะที่เมื่อคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่แย่กว่าที่คาด เช่น ยอดขายบ้านมือสอง และ ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ร่วงลงสู่ระดับ 0.3 ในเดือนธ.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.0 จากระดับ 10.4 ในเดือนพ.ย.” นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับวันนี้มองว่าทิศทางเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มแข็งค่า แต่อยู่ในกรอบจำกัดระหว่าง 30.15-30.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.15729% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.15727%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.33 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 109.55 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1120 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1136 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.2090 บาท/ดอลลาร์
  • “สมคิด” หวัง “ธปท.-คลัง” ผนึกกำลังเคลื่อนเศรษฐกิจ เดินหน้านโยบายสอดคล้องทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง รับห่วงบาทแข็งกระทบส่งออกเกษตร ชี้แบงก์ชาติมีเครื่องมือ มากกว่าดอกเบี้ยนโยบายในการดูแล ค่าเงิน “พาณิชย์” มั่นใจส่งออกปีหน้าบวก ดัน 4 กลยุทธ์ขยายตลาด
  • “สนธิรัตน์” คิกออฟนโยบาย โรงไฟฟ้าชุมชนที่ขอนแก่น มั่นใจบูมเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาปากท้องได้อย่างยั่งยืน เกษตรกรจะมีรายได้จากการปลูกพืชพลังงาน คนในชุมชนจะเปลี่ยนจาก ผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า
  • “กรมสรรพากร” หวังปีนี้มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้าระบบเกิน 11 ล้านราย คาดภาษี “e-Business” มีผลบังคับใช้ปี 2564 ตั้งเป้าปีแรก เก็บภาษีเพิ่ม 4 พันล้านบาท ตั้ง “กองสำรวจธุรกิจนอกระบบ” (กสน.) ไล่ดึงผู้ขายของออนไลน์เข้าระบบ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เม็ดเงินใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จะอยู่ที่ประมาณ 29,800 ล้านบาท หดตัว 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเหตุผลหลักน่าจะมาจากภาวะกำลังซื้อของประชาชน รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงทำให้ภาคประชาชนหันมาประหยัดและใช้จ่ายระมัดระวังในการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่มากขึ้น
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ โดย BoE มีมติ 7-2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาส 4 สู่ระดับ 0.1% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนพ.ย.ที่ระดับ 0.2% ซึ่งสะท้อนถึงภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจที่เห็นได้จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยในช่วงที่ผ่านมา
  • วุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) โดยการผ่านร่างกฎหมายในขั้นตอนของวุฒิสภานั้น มีขึ้นเพียงวันเดียวก่อนที่กฎหมายงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันนี้
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติร่างฉบับแก้ไขของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) แล้ว หลังจากที่มีการเจรจากันมานานหลายเดือนกับคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในประเด็นต่างๆ รวมถึงข้อกำหนดด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อม
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 234,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลง 0.9% สู่ระดับ 1.241 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว จากระดับ 1.252 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 การลดลงของตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้รับแรงหนุนจากการลดลงของการนำเข้าน้ำมัน
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.7% สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. หลังจากอยู่ที่ระดับ 5.44 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่ลดลงในเดือนพ.ย. ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของอังกฤษในไตรมาส 4
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) โดยนักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ
  • รมว.คลังสหรัฐ กล่าวย้ำเมื่อวานนี้ว่า เขามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในต้นเดือนม.ค. และหลังการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรก ทั้งสองฝ่ายก็จะเริ่มต้นเจรจาทำข้อตกลงเฟสสอง
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 62)

Back to Top